ผอ.รพ.วิภาราม แจงดราม่า น้าค่อม ปมย้ายรพ. ยันไม่ได้เลือกปฏิบัติ-ไร้เส้นสาย

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 24 เม.ย.64 เพจ โรงพยาบาลวิภาราม โดยนพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม ชี้แจงถึงเรื่องการย้าย น้าค่อม ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิดวิกฤตฉุกเฉินที่มีความจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการรักษาว่า

เหตุผลที่ย้ายน้าค่อมจากรพ.วิภาราม ไปยังรพ.รามาจักรีนฤบดินทร์ เพราะสูงอายุและมีโรคประจำตัวหลายอย่าง โดยตอนตรวจเจอเชื้อน้าค่อมอยู่อีกโรงพยาบาล ซึ่งอาการยังไม่หนัก แต่ต่อมาปอดมีอาการอักเสบมากขึ้น ก่อนย้ายมารพ.วิภาราม ซึ่งมีห้องไอซียู 12 เตียง โดยมาในจังหวะที่ว่างพอดี

หลังจากให้ยาไป แต่อาการน้าค่อมทรุดลง และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และเมื่อวันที่ 23 เม.ย.มีอาการไตวาย ทำให้ต้องฟอกเลือด หมอจึงมองไปข้างหน้าว่าจะทำอะไรต่อไปบ้าง จึงติดต่อไปยังรพ.ศิริราช แต่เตียงเต็ม โชคดีที่รพ.รามาจักรีนฤบดินทร์ เป็นจังหวะคนไข้ออกพอดี

“จึงอยากทำความเข้าใจ ระบบสาธารณสุข ไม่ว่ารัฐหรือเอกชน เชื่อมั่นได้ว่าจะดูแลคนทุกคนในเมืองไทย ทุกชีวิตมีค่า เราดูแลทุกชีวิตให้ดีที่สุด ไม่เกี่ยวข้องกับเส้นสาย แต่เป็นเรื่องเทคนิคล้วนๆ”

แหล่งข่าวเผยถึงการย้ายโรงพยาบาลของน้าค่อมในครั้งนี้ว่า เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ปอดอักเสบอย่างหนัก ไตวายเฉียบพลัน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจลงไปที่ปอดเพื่อช่วยเรื่องระบบหายใจ และหากมีอาการที่หนักว่านี้อาจจะต้องใช้เครื่อง ECMO ช่วยในการรักษา ซึ่งเป็นขั้นตอนของทางโรงพยาบาลที่ต้องส่งตัวคนไข้อาการโคม่าให้ทางโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่รักษาอาการของคนไข้ได้

หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลวิภาราม ได้ประสานกับทางโรงพยาบาลต่างๆ ที่มีเครื่องตัวนี้ ทางโรงพยาบาลศิริราชก็เต็ม โรงพยาบาลอื่นๆ ก็เต็ม จนช่วงเย็นมีข่าวว่าเตียงของโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ว่างและมีเครื่องมือตัวนี้ ทางโรงพยาบาลจึงได้ติดต่อส่งตัวไปที่โรงพยาบาลนี้ ช่วงเวลา 18.00-19.00 น.