หลังจากที่เกิดประเด็นที่ร้านขนมผุดไอเดีย ‘ขนมอาลัวพระเครื่อง’ จนกลายเป็นกระแสฮือฮากันทั่วโลกออนไลน์ ก่อนจะเกิดกระแสตีกลับว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากรูปพระเครื่องถือเป็นวัตถุมงคล เครื่องสักการะบูชา ทั้งยังบอกว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิด เสี่ยงถูกดำเนินคดี โทษถึงคุก-ปรับหนัก
ทำให้เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นถกเถียงสุดร้อนแรงไปทั่วโลกออนไลน์ เพราะก็มีชาวเน็ต และพระชื่อดังออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม รวมไปถึงเพจดังต่าง ๆ โดยเฉพาะเพจที่มักจะให้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นหลายเพจก็ออกมาเคลื่อนไหวด้วยเช่นเดียวกัน เพราะว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นมีขนมและของฝากหลายชนิดเป็นรูปพระพุทธเจ้านั่นเอง
โดยขนมและของฝากหน้ารูปพระพุทธรูปนี้ ถูกขายและจัดจำหน่ายอยู่ในวัดโคโตะกุอิน อันเป็นสถานที่ตั้งของ ‘พระใหญ่ไดบุตซึ’ พระพุทธรูปที่สำคัญที่สุดในเมืองคามาคุระเมืองเก่าแก่ที่มีทิวทัศน์สวยงาม ซึ่งพระใหญ่ไดบุตซึสร้างจากสำริด และทองแดง โดยช่างฝีมือดีในสมัยคามาคุระ เดิมที่องค์พระนั้นได้ประดิษฐานอยู่ภายในอาคารวัด แต่เมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 และ 15 อาคารของวัดก็ถูกทำลายลงด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ ทำให้เหลือแต่องค์พระใหญ่ตั้งอยู่โดยไม่ได้สร้างอาคารขึ้นมาครอบใหม่
ถึงแม้ว่าจะมีขนาดที่ใหญ่แต่ด้านในก็มีลักษณะกลวง มีหน้าต่างระบายอากาศที่ด้านหลังองค์พระ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปชมในองค์พระได้ และยังว่ากันว่าหากขอพรที่แล้วจะสมหวังในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นขอลูก การงาน เงินทอง ความสุข หรือความรักก็สมหวังอย่างแน่นอน
แต่บอกเลยว่านอกจากพระใหญ่ไดบุตซึที่ขึ้นชื่อแล้วนั้น สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งหลายนั่นก็คือ ร้านขายของที่ระลึกในวัด ที่มีของฝากสุดแปลกให้นักท่องเที่ยวซื้อติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากพระใหญ่ไดบุตสึ ตุ๊กตาพระใหญ่ ขนมรูปพระใหญ่ รวมถึงพวงกุญแจพระใหญ่ไดบุตสึและคิดตี้ไดบุตสึสีหวานแหวว
ทั้งร้านค้าบริเวณใกล้เคียงยังมีการขายขนมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไทยากิ พุดดิ้ง เยลลี่ รวมไปถึงอมยิ้มรูปหลวงพ่อไดบุตสึ ซึ่งชาวเน็ตคนไทยที่เคยไปเยี่ยมชมพระใหญ่ไดบุตสึ หรือวัดแห่งอื่นที่มีการขายของในลักษณะดังกล่าวก็ต่างออกมาแชร์ขนมหน้าพระใหญ่กันเป็นแถว เพื่อตอบโต้เรื่องประเด็นความไม่เหมาะสมของขนมอาลัวพระเครื่องที่กำลังร้อนแรงในขณะนี้
ที่มา : Slow life In Japan