เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผมรู้จักเพนกวิ้นจากสื่อต่างๆ หลังรัฐประหาร ปี 2557 ในฐานะนักเรียนที่สนใจปัญหาสังคม เพนกวิ้น ในเวลานั้นอายุเพียง 17 ปี แสดงท่าทีต่อต้านรัฐประหาร ท้าทายอำนาจเผด็จการอย่างไม่เกรงกลัว ในขณะที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมต่างพากันเงียบกริบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมมองเขาด้วยความชื่นชมความเข้าใจปัญหาสังคมและความกล้าหาญของเขาเพนกวิ้นเป็นคนมุ่งมั่นจนอาจเรียกได้ว่ามุทะลุ ทำอะไรทำจริง คิดอย่างไรพูดอย่างนั้นจนอาจเรียกได้ว่าขวางโลก ใครที่ไม่รู้จัก จึงอาจคิดว่าเขาไม่มีสัมมาคารวะ สำหรับผม มันไม่ใช่การไม่มีสัมมาคารวะ แต่เป็นการไม่พร้อมประนีประนอมกับความไม่ถูกต้อง เพนกวิ้นที่ผมรู้จักพร้อมเผชิญหน้ากับความอยุติธรรมโดยไม่เกรงกลัวผลกระทบที่จะเกิดกับตนเอง

จนเมื่อปีที่แล้ว เพนกวิ้นและผู้กล้าหาญอีกหลายคนได้ออกมาพูดถึงความจริงและความจำเป็นของสังคมที่ไม่มีใครกล้าพูดมาก่อน นั่นคือการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผย แม้แต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเอง หลายคนแม้จะไม่ชอบวิธีการนำเสนอของเพนกวิ้น แต่ในใจของพวกเขาลึกๆย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่คือ “Inconvenient Truth” ที่พวกเขารู้สึกแต่ไม่กล้าพูดออกมาผลจากความกล้าหาญของเขาและเพื่อน ทำให้วันนี้เพนกวิ้นกลายเป็นผู้ต้องหาคดี 112 ถูกจำคุกไปแล้ว 51 วัน โดยไม่ได้รับการประกันตัว แม้จะมีการยื่นขอประกันตัวถึง 9 ครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! ‘เพนกวิน’ อาการทรุด ถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ ร่างกายเริ่มย่อยกะเพราะแล้ว

ธนาธร มาแล้ว! แนะเปลี่ยนตัวนายกฯ ชูไอเดียแก้เศรษฐกิจ ท่ามกลางวิกฤตโควิด