เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 พญ.ณัฐกานต์ ชื่นชม หรือ หมอเบียร์ อายุรกรรมโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nuttagarn Chuenchom เพื่อแชร์เคสผู้ป่วยโควิด-19 โดยข้อความระบุว่า
ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 มานานกว่าหนึ่งปีมีผู้ป่วยราว 400 คนยอมรับว่าระลอกใหม่ล่าสุดนี้อาการโหดมากจริงๆ นิสัยของมันดุดันไม่น่ารักอย่างเคย คนไข้เกือบทุกคนมีไข้ นอนซม อาการแย่ ไม่ว่าจะอายุน้อยหรือมาก ไม่ว่าจะมีโรคประจำตัวหรือไม่ ทุกคนมีโอกาสแย่ลงได้หมด..หมอจะขอแชร์อาการคนไข้คนนี้ ผู้ป่วยหญิงอายุ 58 ปี มีไขมันในเลือดสูง ปกติแข็งแรงมาก
วันที่1 มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ไอแห้ง หมอส่งตรวจเลือด ตรวจ PCR (จกจมูก)ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 ตรวจเอ็กซเรย์ปอดยังปกติดี
วันที่ 2 มีไข้สูง อาการแย่ กินข้าวไม่ได้ นอนทั้งวัน ยังไม่มีปอดอักเสบ หมอพิจารณาให้ยาลดไวรัส Favipiravir
วันที่ 3 ไข้ยังสูงทั้งๆที่กินยาแล้ว เอ็กซเรย์ปอดเห็นฝ้าลางๆ ออกซิเจนในเลือดยังดีอยู่ หมอให้สเตียรอยด์ขนาดต่ำๆเพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้นไข้ลดลง
วันที่ 4 อาการทรงๆ ดูฟิล์มเอ็กซเรย์ปอดมีฝ้าพอๆเดิม
วันที่ 5 เหนื่อยขึ้นมากๆ oxygen ในเลือดลดลงเหลือ 88% เอ็กซเรย์ซ้ำฝ้าขาวขึ้นพรึ่บทั้งปอด (รูปขวา) หมอให้สเตียรอยด์ขนาดสูงเปลี่ยนจาก dexamethasone เป็น methylprednisolone 750 mg IV
ให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียไปด้วย ให้ยาถ่ายพยาธิเพื่อป้องกันเนื่องจากให้สเตียรอยด์นานพยาธิในตัวจะออกมาเพ่นพ่าน
เปลี่ยนชนิดของการให้ออกซิเจนจาก canula เป็น High flow oxygen หลังจากนั้น 12 ชั่วโมงอาการทรงตัวแบบลุ้นทุกชั่วโมง
วันที่ 6 ออกซิเจนยังลดต่ำต่อเนื่อง ให้ยาต่อ ให้สเตียรอยด์ขนาดสูง ให้ยาละลายลิ่มเลือดรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดโดยการคาดเดาเพราะเคลื่อนย้ายไปทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ไม่ได้
พูดคุย บีบมือให้กำลังใจคนไข้ ให้นั่งสมาธิ ฟังเทปธรรมะ ฟังเพลง บังคับให้กินอาหารที่มีพลังงานสูง กินตลอดเวลา
วันที่ 7-8-9-10 อาการค่อยๆดีขึ้นต่อเนื่อง หยุดยาไวรัส หยุดสเตียรอยด์ (เอ็กซเรย์รูปซ้ายคือวันที่ 10 เคลียร์ขึ้นมาก)
หมอนอนไม่ค่อยหลับมาหลายวันเพราะความกังวล
วันนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย คนไข้ทยอยๆดีขึ้น หมอก็สบายใจ
สถิติระลอกนี้ คนไข้หนักประมาณ 50% เลยนะ ประมาทไม่ได้เลยจ้า
…..ติดจริง เจ็บจริง ตายจริง..ไม่มีตัวแสดงแทน…
นี่ขนาดตัวเองเป็นหมอคนรักษายังเครียดขนาดนี้ จินตนาการไม่ออกเลยว่าคนไข้ที่นอนรอลุ้นอยู่บนเตียงในวอร์ด Cohort ว่าตัวเองจะดีขึ้น แย่ลงหรือจะต้องตายเขาจะรู้สึกอย่างไร….
ช่วยกันนะคะ..เราอาจจะยังไม่มียาต้านไวรัสที่ดีที่สุด เรากำลังเริ่มได้ฉีดวัคซีนแม้จะเลือกไม่ได้ เราอาจจะไม่มีเตียงผู้ป่วยหนักที่เพียงพอและดีพอสำหรับทุกคน..แต่คนไทยทุกคนมีความสามัคคี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เห็นอกเห็นใจกันและกัน วินาทีนี้เราต้องเอาออกมาใช้ รับผิดชอบสังคมด้วยการไม่แพร่เชื้อ รู้ตัวว่าเสี่ยงให้หยุดอยู่บ้าน หยุดปาร์ตี้ สวมแมสล้างมือเป็นกิจวัตร หากป่วยให้มาพบแพทย์โดยเร็วและไม่ปกปิดข้อมูล ฉีดวัคซีนป้องกันให้ครอบคลุม..ง่ายๆหากเราช่วยกันมันต้องดีค่ะ
หลายวันมานี้ได้ข่าวคนนั้นคนนี้จากไปเพราะโควิด..หมอไม่อยากเห็นใครต้องสูญเสียเพราะมันอีกเลยค่ะ
เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง