เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงผลการศึกษาภูมิต้านทานโควิดหลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนก้า ว่าหากฉีดเเล้วจะมีภูมิต้านทานสูงถึง 96.7 %
 
โดย ศ.นพ.ยง เปิดเผยว่า ทางศูนย์ได้ศึกษาภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน AstraZeneca ในคนไทย หลังเข็มแรกเป็นระยะเวลา 1 เดือน จำนวน 61 คน เป็นการรายงานเบื้องต้น ภูมิต้านทานที่ตรวจพบ มีการตอบสนอง ตรวจวัดภูมิต้านทานได้ถึงร้อยละ 96.7 เมื่อเปรียบเทียบกับการตรวจวัดภูมิต้านทานในผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อ เป็นระยะเวลา 4- 8 สัปดาห์ตรวจพบได้ร้อยละ 92.4
พบว่าระดับภูมิต้านทานที่พบเพศหญิงจะให้ระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าเพศชาย เเละอายุที่น้อยกว่า 60 ปีจะมีระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งขณะนี้กำลังรอวิเคราะห์ข้อมูลที่มีจำนวนมากขึ้นกว่านี้ และจะมีการตรวจเลือดเพื่อหาภูมิต้านทานก่อนฉีดเข็มที่ 2 อีกครั้ง และหลังเข็ม 2 แล้ว 1 เดือนภูมิต้านทานน่าจะมีระดับสูงมาก และสามารถอยู่ได้นาน
ดังนั้น หากฉีดวัคซีน Astra Zeneca เพียงเข็มเดียว ภูมิต้านทานที่ตรวจวัดได้ ก็เป็นที่น่าพอใจ เเละมี 1 ราย ที่ฉีดวัคซีน Sinovac เข็มแรกแล้วเกิดอาการแพ้ เลยฉีดเข็มที่ 2 ใน 3 อาทิตย์ต่อมา ด้วยวัคซีน AstraZeneca และตรวจเลือดเมื่อ 1 เดือนหลังฉีดวัคซีน Astra Zeneca พบระดับภูมิต้านทานสูงมากสูงถึง 241 u/ml
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาการฉีดวัคซีนเปลี่ยนชนิดกัน ดังนั้น ศ.นพ.ยง จึงฝากไว้ว่า หากการฉีดวัคซีนต่างชนิดกัน ขอความกรุณาติดต่อขอตรวจภูมิต้านทานด้วย เพื่อเก็บเป็นข้อมูลและรวมถึงอาการข้างเคียง และการเปลี่ยนชนิดของวัคซีนเป็นเรื่องที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง