ดร.ทรงยศ เปิดเผยว่า วันนี้ จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือเพียง 23 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,789 ราย รักษาหายแล้ว 2,661 ราย ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,119 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 9 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย 844 ราย อาการปานกลาง 142 ราย อาการค่อนข้างหนัก 73 ราย และอาการหนัก 18 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อในเรือนจำกลางเชียงใหม่ มีผู้ติดเชื้อสะสม 244 ราย ซึ่งไม่ได้นับรวมยอดกับผู้ป่วยภายนอก สำหรับยอดผู้รักษาพยาบาลในโรงพยาบาลสนามขณะนี้ โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังเหลือผู้ที่รักษาตัวอยู่ 46 ราย โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยแม่โจ้ 90 ราย ซึ่งมีแผนที่จะปิดการให้บริการโรงพยาบาลสนามทั้ง 2 แห่งนี้ในสัปดาห์หน้า

ส่วนการตรวจค้นหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเมื่อวานนี้ (4 พ.ค. 64) ตรวจทั้งหมด 1,583 ราย พบผลบวกลดลงเหลือเพียงร้อยละ 2.02 อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงสูงยังอยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสในครอบครัว ชุมชน และในสถานที่ทำงาน ขณะที่การตรวจเชิงรุกเมื่อวานนี้ คลัสเตอร์บ้านหารแก้ว อ.หางดง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย ส่วนคลัสเตอร์บ้านแม่อ้อใน ต.แม่นะ อ.เชียงดาว ได้ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเพิ่มอีก 125 ราย ซึ่งจะทราบผลการตรวจในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.)

ขณะที่ในวันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่อีก 1 คลัสเตอร์ เป็นคลัสเตอร์ในห้างโลตัสรวมโชค พบผู้ติดเชื้อแล้ว 9 ราย ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ประกาศขอให้ประชาชนที่ไปใช้บริการที่ห้างทองเยาวราช และศูนย์อาหารของห้างโลตัสรวมโชค ระหว่างวันที่ 22 เม.ย.-4 พ.ค. เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง รวมถึงจุดตรวจศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ และจุดตรวจศูนย์วัณโรคเชียงใหม่ ตรงข้ามสุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.30 น. -16.00 น.

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์นเรนทร์ ได้ชี้แจงกรณีมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 รายว่า รายแรกเป็นหญิงชาวฝรั่งเศส อายุ 81 ปี มีโรคประจำตัวความดัน เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง น้ำหนักตัวค่อนข้างมาก และคาดว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อภายในครอบครัว เนื่องจากพบว่ามีญาติติดเชื้อโควิด โดยผู้ป่วยรายนี้ได้ลื่นล้มในห้องน้ำเมื่อวันที่ 22 เม.ย. และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อกลับถึงบ้านมีอาการเหนื่อย ไม่มีอาการไข้และไอ จากนั้นวันที่ 26 เม.ย. ผู้ป่วยได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนอีกครั้ง พบปอดอักเสบด้านขวา และตรวจพบเชื้อโควิด จึงถูกส่งเข้ารักษาตัวที่ ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ และในวันที่ 2 พ.ค. ตรวจพบว่ามีภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิตเพิ่มเติมจากเชื้อแบคทีเรีย แพทย์ได้รักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะเพิ่มเติม แต่อาการยังคงทรุดและได้เสียชีวิตลงในวันที่ 3 พ.ค.

ส่วนอีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 87 ปี มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน และไตเรื้อรัง ติดเชื้อจากคนในครอบครัว วันที่ 24 เม.ย. มีอาการไข้ ไอ น้ำมูก วันที่ 27 เม.ย. เข้ารักษาตัวที่ ร.พ.สันทราย และตรวจพบว่ามีระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดต่ำ แพทย์ได้ให้การรักษาด้วยออกซิเจนและตรวจพบเชื้อโควิด จึงถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ ร.พ.นครพิงค์ จากนั้นผู้ป่วยมีอาการหายใจเหนื่อยหอบมากแม้จะใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์จึงได้ปรับการใช้เครื่องช่วยหายใจและให้ยาเพื่อประคับประคองความดันโลหิต แต่ผู้ป่วยมีภาวะอวัยวะภายในล้มเหลว มีความรุนแรงมากขึ้น และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 3 พ.ค. แม้แพทย์จะได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม

ในการนี้ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่หนังสือขอทบทวนมาตรการให้ร้านอาหารและเครื่องดื่มจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะนำกลับไปบริโภคที่อื่นว่า เจตนารมณ์ของหนังสือดังกล่าวเป็นการชี้แจงต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ว่าจากการที่จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงเสนอขอให้มีการพิจารณาปรับลดจากพื้นที่สีแดงเข้มเป็นพื้นที่สีแดง เพื่อให้สามารถประกอบกิจกรรมได้ในหลาย ๆ ประการ พร้อมขอยืนยันว่าจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีมาตรการผ่อนปรนแต่อย่างใด เป็นเพียงการเสนอหนังสือต่อ ศบค. เท่านั้น

นอกจากนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังได้มีการแจกธารน้ำใจกู้ชีวิต ฝ่าวิกฤต COVID-19 ผ่านแอพพลิเคชัน “พ้นภัย” ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนางสุดาภรณ์ สงวนสัตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสถานีกาชาดที่ 3 และกิ่งกาชาดอำเภอ ดำเนินการขึ้นเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ยากไร้และผู้ถูกเลิกจ้างงานเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และในสัปดาห์หน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จะได้ร่วมกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ หารือเตรียมการคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มผู้ประกันตนในสถานประกอบการกว่า 5,000 ราย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการและเพื่อนร่วมงาน