เมื่อวันที่ 5 พ.ค. เพจ หมอแล็บแพนด้า หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ โพสต์ภาพใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยโควิด-19 รายหนึ่ง ที่รักษากับโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งเป็นการรักษาตัว 17 วัน ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.- 4 พ.ค. โดยเป็นการเข้ารักษาในห้องไอซียูถึง 13 วัน โดยมียอดค่ารักษาสูงกว่า 1,039,866.66 บาท แต่มีส่วนลด 50,195.82 บาท ทำให้เหลือยอดสุทธิในการรักษาคือ 989,670 บาท
โดยทางเพจระบุข้อความว่า “ถ้าไปรักษาโควิดที่รพ.เอกชนบางที่ แทบไม่อยากฟื้นขึ้นมาจ่ายเลย หมอ! ผมขอขายไต” อย่างไรก็ตาม โพสต์ดังกล่าวมียอดแชร์กว่า 7,900 ครั้ง มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ถามถึงว่า ก่อนหน้านี้ ทางอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ชี้แจงการเรียกเก็บค่ารักษาโรคโควิด-19
สำหรับสถานพยาบาลเอกชน ให้ดำเนินการเรียกเก็บจาก สปสช.ตามบัญชีและอัตราแนบท้ายประกาศในส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ให้เป็นสิทธิของผู้ป่วย และญาติที่จะเลือกรับบริการโดยชำระค่าใช้จ่ายเอง โดยเมื่อผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษาสถานพยาบาลจะต้องได้รับการดูแล 2 เรื่อง คือ ดูแลผู้ป่วยให้เกิดความปลอดภัย เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หากไม่ดำเนินตามประกาศ มีโทษในมาตรา 66 ซึ่งอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พร้อมยังมีการแชร์ประสบการณ์การเข้ารักษา ของชาวเน็ต
ประสบการณ์ covid จากคนใกล้ตัว
ค่าใช้จ่าย รพ 16 วัน 930,000 บาท (ใช่ครับ! เก้าแสนสามหมื่นบาท!!!!)
ซึ่งประกันรับผิดชอบที่วงเงิน 500,000 บาท ที่เหลือเราต้องจ่าย
*Q : ทุกคนคงถาม รู้ว่าเอกชนแพงแล้วเข้าทำไม (ในเวลานั้น รพ หายากมากที่ไหนได้ต้องรีบเข้า)
*A : ก็ทำประกันชีวิตเพื่อช่วยทำให้ช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีความสำคัญต่อชีวิต ให้ง่ายขึ้น
(วงเงินค่ารักษาปีละ 1 ล้าน แบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 5 แสน)
เริ่มต้น
6/04 แจ้งผลพบเชื้อตอน 10.00 น โดยแจ้งว่าให้กักตัวอยู่ที่บ้าน เรารอจนเย็น ก็ยังไม่มีวี่แววใดๆ ทางเราร้อนใจเลยต้องหา รพ.เอง เพื่อให้ผู้ป่วยได้ไปรักษา เนื่องจากที่บ้านมีคนสูงอายุอยู่ด้วย จนเวลา 18.30 เราได้รพ… ติดต่อเรียบร้อยจน 20.00 ผู้ป่วยขับรถไปที่ รพ ด้วยตัวเอง
ตั้งแต่ 6/04 ก็พักอยู่ รพ เรื่อยๆ โดยไม่มีอาการใดๆ น่าเป็นห่วงจากสายตาคนที่บ้าน(เพราะผู้ป่วยสั่งอาหารจากด้านนอกมาทานด้วยตัวเองได้ทุกวัน) เช็คยอดเมื่อ 17/04 (ทางเราสอบถามเพราะ รพไม่แจ้งอะไรเลย) ค่าใช้จ่าย 430,000 ก็อุ่นใจเพราะยังอยู่ในวงเงินประกัน
จน 17/04 16.00น. คุณหมอแจ้งคนไข้ ปอดมีปัญหาเลยย้ายผู้ป่วยไป ICU จนถึง เที่ยง 20/04 ทางบ้านทราบจากตัวคนไข้เอง (โดยเวลา VDO Call คุยกันก็ไม่เห็นอาการใดๆ น่าเป็นห่วง ยังสามารถสั่งอาหารจากนอก รพ เข้ามากินใน ICU ปกติ)จน 3 วัน เช็คค่าใช้จ่าย (โดย รพ ไม่มีการแจ้งใดๆ อีก)ยอดเพิ่มอีก 500,000 บาท ( ห้าแสนบาท คุณพระ!!!) รวมเป็นเงิน 930,000 บาท
วันนี้ 22/04 เลยเข้าไปคุยกับ รพ ถามหารายละเอียดต่างๆ ว่าเพราะอะไรทำไมอยู่ๆ ค่าใช้จ่ายถึงออกมาเป็นแบบนี้ตั้งแต่ 20/04 กว่าจะได้รายละเอียดต่างๆ ใช้เวลาเกือบ 2 วัน (48 ชม) และในวันนี้ใช้เวลานั่งรอเจ้าหน้าที่ต่างๆ มาอธิบายนานถึง 2 ชม เจ้าหน้าที่ที่มาก็พูดจาวกไปวนมา แจ้งว่าญาติไม่มีสิทธิในการสอบถาม เพราะแจ้งกับคนไข้ไปหมดแล้ว มาถามแบบนี้คุยยังไงก็ไม่จบ เราก็ถามถึงสิทธิที่ญาติต้องรู้ ให้เบอร์ตรงกับทาง รพ บอกมีอะไรให้โทรแจ้ง (ก็ไม่เคยโทร) คุณพระ เราเป็นคนจ่ายเงิน เราจะไม่สามารถสอบถามอะไรได้จริงๆ หรือ
หลังจากถามรายละเอียดทางพยาบาลและการเงินก็ไม่ได้คำตอบใดๆ เลยอยากพบแพทย์ที่รักษา ทาง รพ ก็บ่ายเบี่ยง เราจึงแจ้งว่า พร้อมเมื่อไหร่ให้โทรแจ้ง เราจะเข้ามาคุยอีกที
พอตอนเย็น รพแจ้งให้คนไข้ออกจาก รพ ในทันที (ไม่ได้บอกญาติอีกเช่นเคย)โดยที่จะไปคุยเรื่องค่าใช้จ่ายอีกที เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร รอติดตามตอนต่อไป
จากประสบการณ์ทั้งหมด อยากเตือนว่าอย่าไว้ใจวงเงินประกันกับโรงพยาบาลมากนัก
ที่สำคัญ ประกันชีวิตไม่เคยทำให้ใครรวยขึ้น แต่ประกันชีวิตจะไม่ทำให้เราจนลงเวลาเราป่วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
