เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อดีตเชฟหนุ่มรายหนึ่ง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองลงในกลุ่ม ย้ายประเทศกันเถอะ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 2 แสนคน บอกเล่าเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นหลังกลับจากออสเตรเลียมาอยู่ประเทศไทย จากเชฟหนุ่มอนาคตไกล ต้องกลายเป็นผู้พิการ เนื่องจากอุบัติเหตุ แต่ได้รับเงินชดเชยจากคู่กรณีเพียง 50,000 บาทเท่านั้น และไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เนื่องจากช่องโหว่ทางกฎหมาย เรื่องราวมีดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผอ.เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เผย เข้าวันที่ 2 ดำเนินการตรวจโควิด-19 เชิงรุก

พิมพ์มาดา เชฟฟาง โดนลือหนัก หรือจะจริง!

“ผมเคยไปอยู่ออสเตรเลีย เกือบ 1 ปีและก็กลับไทยเพราะคิดถึงพ่อแม่แต่พอผมกลับไทยแล้วเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น…แตกต่างกันอย่างไรบ้าง อยากให้ทุกๆท่านสละเวลาสัก 1-2 นาทีดูรูปของผมพร้อมกับคำบรรยายใต้ภาพ ดูทีละรูปนะครับจะเป็นพระคุณกับผมเหนือคณานับมากๆ แล้วทุกท่านจะเห็นความแตกต่างขอบคุณนะครับ” 

โดยหนุ่มรายนี้ ได้บรรยายชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองที่ออสเตรเลีย มีบ้านสวยงาม ไม่มีสายไฟ เสาไฟฟ้าแบบประเทศไทย หลายครอบครัวที่ฝรั่งกับคนเอเชียอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น กฎหมายจราจรบังคับใช้ 100% ตนเคยเห็นถนนที่ไม่มีรถสักคันแต่ไฟยังเขียวอยู่ คนจึงห้ามข้าม แต่มีคนนึงเดินข้ามทันทีเพราะไม่มีรถ จึงถูกตำรวจวิ่งเข้าไปรวบตัวและปรับข้อหาฝ่าฝืน

เจ้าของโพสต์ระบุด้วยว่า “ผมได้เงินจากผู้ต้องหามา 5 หมื่นบาทเท่านั้น ผู้พิพากษาบอกว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีเจตนาร้าย เป็นแค่อุบัติเหตุและช่วยมาแล้ว 5 หมื่น ดังนั้นไม่ควรให้ผู้ต้องหาติดคุกเพราะไม่เป็นธรรมแก่เค้า

ปัจจุบันนี้ผู้ต้องหาทำงานรับเงินสด ไม่ยอมโอนเข้าบัญชีเพราะกลัวตนจะยึดทรัพย์ ฝ่ายนั้นกินและเที่ยวกับครอบครัวอย่างมีความสุขทุกๆวัน ซึ่งครอบครัวมีฐานะร่ำรวยระดับนึง

กฎหมายประเทศไทยระบุไว้ว่า

1.ยึดทรัพย์ได้เฉพาะผู้ต้องหาเท่านั้น ห้ามยึดทรัพย์ครอบครัวแม้จะร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม
2.หากผู้ต้องหาทำงานฟรีแลนซ์ วินมอไซค์ หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่พนักงานกินเงินเดือน ให้ถือว่าผู้ต้องหาเป็นคนว่างงาน ไม่สามารถยึดทรัพย์ได้
3.หากผู้ต้องหาเป็นพนักงานกินเงินเดือนที่มีเงินไม่ถึง 2 หมื่น ห้ามยึดทรัพย์ทุกกรณี (แต่หากมีเงินเดือน 21,000 บาท จะยึดได้แค่ 1,000 บาท ต้องเหลือ 2 หมื่นไว้ให้เค้า)
4.หากครบ 10 ปีแล้วผู้ต้องหายังชดใช้ไม่ครบ เป็นอันว่าหมดอายุความ ผู้ต้องหาสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่ต้องชดใช้หนี้อีกต่อไป

จึงทำให้ผมเป็นทุกข์มาก และต้องเป็นหนี้ยืมเงินมารักษาตัวเอง ผู้พิพากษาบ้านเราทำงานแบบไม่เป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย และการที่ผู้เสียหายวิจารณ์การตัดสินที่ไม่เป็นธรรมของผู้พิพากษานั้น…ผิดกฎหมายมีโทษรุนแรงกว่าขับรถชนคนตายซะอีก ผมอยากย้ายประเทศครับ แต่รอขึ้นศาลรอบสุดท้ายก่อน”