เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ชูวิทย์ ลั่น “คลัสเตอร์คุก นรกมาเยือน” ซัดราชทัณฑ์ปกปิดข้อมูล ติดโควิดทีเดียว 3000 คน

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “คลัสเตอร์คุก นรกมาเยือน”ตัวเลขผู้ติดเชื้อของนักโทษเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 1,795 คน จากยอดนักโทษทั้งหมด 3,274 คน เท่ากับทุกๆ 2 คนติดโควิด 1 คนส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อในทัณฑสถานหญิงกลาง 1,040 คน จากยอดนักโทษทั้งหมด 4,484 คน เท่ากับนักโทษ 4 คน ติดโควิด 1 คน วันนี้กรมราชทัณฑ์ยังแถลงยาวเหยียดว่า อย่าไปห่วงเลย ไม่มีปัญหา ควบคุมได้สบายมาก จะทำตามแบบเรือนจำนราธิวาสเป๊ะ รับรองมั่นใจได้ เพราะมีนโยบาย “บับเบิล แอนด์ ซีล”โถโถ! นี่ยังไม่ยอมรับความจริงอีกว่า “นรกมาเยือน” แล้วพี่น้องคลัสเตอร์คุกครั้งนี้กลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่สุด เร็วที่สุด จำนวนมากที่สุด ที่พบในครั้งเดียวของไทย เพราะพบทีเดียว 3,000 คน และยังไม่มีทีท่าจะควบคุมได้

เพราะทุกคนล้วนเป็นนักโทษ ไปไหนไม่ได้สภาพความแออัดยัดเยียดของคุก หากคิดว่าคลองเตยอยู่อย่างแออัดแล้ว เทียบกับในเรือนจำมันยิ่งกว่าคลองเตยคูณสิบในคุกไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่จะได้อยู่ห่างกันเกิน 1 ก้าว ไม่ว่า กินข้าวด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน ขังรวมกัน นอนเรียงกันเป็นพืด 15 ชั่วโมง ตั้งแต่บ่าย 3 โมง ไปยัน 6 โมงเช้าเวลาไอ กรน พัดลมหมุนเวียน แม้หน้าต่างจะมี แต่อากาศระบายไม่ได้เพราะกำแพงสูงอย่างกับกำแพงเมืองจีนอย่าเข้าใจว่าคุกไทยเหมือนคุกในหนังฝรั่งที่ขัง 2 คนต่อห้อง มีห้องน้ำส่วนตัวนะครับ มันห่างชั้นกันคนละโลก เพราะคุกไทยห้องขนาด 4×10 เมตร เท่ากับ 40 ตารางเมตร ช่วงตำรวจฟิตจัดๆ อยู่รวมกัน 60-70 คนเรียกว่า 1 ตารางเมตร นอนกัน 2 คน แน่นขนาดลุกไปเยี่ยวกลับมา ที่นอนไม่ว่างแล้วการกักโรคของกรมราชทัณฑ์ล้มเหลว ไม่อย่างนั้นผู้ต้องขังไม่ติดโควิดในอัตราสูงและเร็วเช่นนี้เมื่อตรวจคัดกรองอีกรอบแล้วไม่พบ ก็ไม่ได้หมายความว่าการระบาดจะยุติ

เพราะเชื้อยังฝังในอยู่ เช่นเดียวกับเชื้อวัณโรคที่ในคุกยังพบอยู่จำนวนมากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมีทั้งสิ้น 8 แดน กำหนดให้แดน 2 เป็นแดนกักโรค ผู้ต้องขังใหม่ต้องมากักตัวที่แดน 2 ก่อน เป็นเวลา 14 วัน (ต่อมาเพิ่มขึ้นเป็น 21 วัน)หากการกักตัวได้ผลจะติดกันเกือบ 3,000 คนได้ไง? ช่วยตอบชัดๆ ทีเถอะหากตอบไม่ได้ ชูวิทย์จะบอกให้ด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ผู้ต้องขังใหม่ที่เพิ่งเข้ามา กับผู้ต้องขังเก่าที่กักตัวอยู่ ถูกเอามากักรวมกัน คละเคล้ากันไปในแดน 2 ตามห้องต่างๆ ที่มีอยู่เพียง 13 ห้องแทนที่คนใหม่มาจะเอาเข้าห้องใหม่ แต่ห้องไม่พอ เลยใช้วิธีเวียนเทียนห้องสลับไปมาจนล้น ต้องเอาไปฝากแดน 1 อยู่ 3 ห้องส่วนผู้ต้องขังในแดนอื่นๆ เมื่อมีนัดขึ้นศาล ไปเสี่ยงติดเชื้อกลับมา ก็ต้องเอาไปอยู่แดน 2 เพื่อกักตัวใหม่อีก 21 วัน ยัดเข้าไปห้องเดียวกันกับคนที่กักตัวอยู่ที่สำคัญ ยังปล่อยให้ขาใหญ่แดน 2 ออกเดินเพ่นพ่านนอกพื้นที่กักตัวได้เสียอีก ทั้งที่ยังอยู่ในระหว่างกักตัว
เฉกเช่นจิ๊กโก๋ขาใหญ่อย่าง “ไอ้โป้” ช่วงเข้าไปใหม่ๆ กักตัวอยู่ไม่ถึง 14 วัน ก็เสือกโผล่หัวออกมาเดินเซิ้งที่ห้องเยี่ยมญาติได้อย่างสะดวกโยธินเห็นจะจะคาตาไม่รู้เป็นความสามารถส่วนตัว หรือกักตัวแบบไหน หากไม่เชื่อลองดูกล้องย้อนหลังได้ ในคุกมีกล้องเพียบทุกระยะอยู่แล้วเมื่อนักเลงท้ายซอยแบบไอ้โป้ยังทำได้ ขาใหญ่ก็ย่อมทำได้ขาใหญ่คือขาใหญ่ ไม่ใช่ขาสั้น ชนชั้นในคุกยังมีอยู่ ถือเป็นระบบศักดินาที่สุดท้ายของประเทศไทยแม้แต่ตอนนี้ไอ้โป้ยังอยู่แดน 2 เหมือนเดิม ทั้งที่พ้นระยะกักตัวไปนานแล้ว แต่อยู่จนชิน เลยสมัครใจอยู่ต่อซะงั้นกฎระเบียบเอาไว้ใช้กับพวกขาสั้นนักโทษทั่วไป ยกเว้นพวกขาใหญ่ นี่ยกตัวอย่างแค่ไอ้โป้คนเดียวขนาดคุกใหญ่ใจกลางกรุงเทพฟ้าอมรนะครับ ยังเละตุ้มเป๊ะแบบนี้

ถ้าเป็นคุกบ้านนอกไกลปืนเที่ยงตามต่างจังหวัด จะขนาดไหน?ที่แย่สุดคือ คลัสเตอร์คุก ปล่อยตัวเลขพุ่งพรวดวันเดียวมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา ติดโควิด 3,000 คน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีข่าวสักแอะ ปฏิเสธกันเงียบกริบว่ามีไม่มากความเป็นจริง เชื้อต้องติดเริ่มจากสิบ ร้อย แล้วไปเป็นพัน ไม่ใช่พุ่งติดอันดับท็อปทะลุชาร์ตมา 3,000 คนเลยทีเดียว เป็นไปได้ยังไง?นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรือนจำอื่นๆ ในบริเวณที่เรียกว่า “ลาดยาวพลาซา” ที่ประกอบไปด้วย เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำคลองเปรม ทัณฑสถานบำบัดกลาง ทัณฑสถานหญิงกลาง แถมด้วยสถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
ที่น่าเป็นห่วงสุดคือ ทัณฑสถานหญิงกลางที่อยู่กันแบบหนาแน่น เพราะนักโทษหญิงถูกขังรวมกันหมดทุกโทษานุโทษ ไม่ว่าคดียาเสพติด ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ฉ้อโกง แออัดยัดทะนานเหมือนเล้าไก่แล้วยังมีทัณฑสถานบำบัดกลาง ขังพวกนักโทษชายคดียาเสพติด ที่แน่นขนาดผูกเปลนอน คงติดโควิดกันงอมพระรามยังไม่ต้องไปถึงเรือนจำใหญ่ในจังหวัดใหญ่ๆ หัวเมือง ไม่ว่าเหนือ ใต้ ออก ตก 143 เรือนจำทั่วประเทศไหนจะบรรดาผู้คุมที่เดินเข้าออกคุกทุกวี่ทุกวัน นำโรคภัยไข้เจ็บเอาไปฝากครอบครัวที่บ้านอีกหากยอมรับความจริงเสียตั้งแต่แรก ไม่ปิดบังตัวเลขผู้ติดเชื้อ สังคมคงไม่ตระหนกตกใจอย่างนี้จู่ๆ เล่นมาบอกตัวเลขช็อกโลกว่ามีผู้ต้องขังติดโควิดเกือบ 3,000 คน มันจะมาติดได้มากมายรวดเร็วขนาดนี้ได้ไง หากไม่ปิดบังตัวเลขมาตั้งแต่ต้น?

นี่ล่ะครับราชการไทย มักกดตัวเลขต่ำๆ ทำภาพสวยๆ โชว์ป้ายติดชื่อหรา มีรูปภาพประทับใจตอนลงพื้นที่ แต่ไส้ในเน่าเฟะเละขนาดไหนดูกันเอาเอง
เดี๋ยวพวกลิ่วล้อรัฐบาลจะหาว่าผมเห่าซี้ซั้วมั่วข้อมูลอีกนี่ขนาดช่วยเงียบไป 2 วันวันนี้อารมณ์ดี ว่าจะเขียนชมรัฐบาลเสียหน่อย ยังหาเรื่องใหม่มาให้ผมด่าจนได้เก่งจริงๆ

รัฐบาลชุดนี้ หาเรื่องมาให้ด่าได้ทุกวี่ทุกวัน ชูวิทย์ กล่าว

ข่าวเพิ่มเติม