หลานโพตส์ เสียใจสุดๆเหมือนเป็นคนผิดเพราะพายายไปฉีดเอง ทั้งที่ก่อนไปฉีดยายแข็งแรงดี และแจ้งแพทย์ไปก่อนแล้วว่ายายเป็นโรคหัวใจ เสียใจหนักเมื่อแพทย์บอกไม่เกี่ยวกับฉีดวัคซีน
นี่คือผู้โพตส์เฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า ความสุข อยู่รอบตัวเรา มีข้อความว่า “เวลา10.30 ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่า ยายหายใจเร็วขึ้น อาการเหมือนเหนื่อยมาก ถ้าอาการไม่ดีขึ้นขออนุญาตใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ นี้ เป็นอาการหลังจากฉีดวัคซีนวันที่ 7 เข้ารักษา ร.พ. วันที่11 แต่คุณหมอบอกว่าไม่เกี่ยววัคซีนนนนนน เคยดูแต่ข่าวไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง เซงเป็ดแม่งไม่รับ” แล้วก็มีภาพหญิงสาวขับรถพายายไปฉีดวัคซีน มีภาพตอนฉีดวัคซีนด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ วัดโพธิ์ ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี พบมีการกำลังเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่า นางรัตติยา มหาโสม อายุ 80 ปี อยู่บ้านเช่าเลขที่ 598 ค.ถนนพิพิธ ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี มาตั้งที่ศาลา 1 โดยมีนางอำภา มหาโสม อายุ 56 ปี ( ลูก ) น.ส.กานดา อรุณส่ง อายุ 33 ปี ( หลานผู้โพตส์ ) สอบถามทั้ง 2 คน ได้เปิดเผยว่า ยายจองคิวฉีดวัคซีนทางหมอพร้อม ได้คิวฉีดวัคซีนเข็มแรกของ รพ.ชลบุรี วันที่ 7 มิ.ย.และไปฉีดที่อาคารเทศบาลเมืองบ้านสวน วันที่ 7 มิ.ย.เวลา 11.00 น.โดยฉีดวัคซีนแอตต้าซินิก้า ช่วงเวลาที่ฉีดมาวันแรกกลับมาบ้านสัก 2-3 ชั่วโมงก็คลื่นไส้แล้วก็วันนั้นก็ไม่มีอะไร พอวันที่ 8 ช่วงเที่ยงเริ่มมีอาการตัวร้อนก็เลยให้กินยาพารา วันที่ 9 ก็ตัวร้อนอีกก็ให้กินยาพาราเช้าและเย็น พอวันที่ 10 มิ.ย.ตอนเช้าเริ่มมีอาการเหงื่อออกแล้วก็รู้สึกเหนื่อยหอบลุกขึ้นมานั่งแต่ได้ และก็ยังเดินเข้าห้องน้ำได้ปกติ พอวันที่ 11 มิ.ย.เช้าตื่นมาแกก็มีอาการเหนื่อยหอบเหงื่อออกเยอะ ตอนเย็นไข้ลด แต่พอเวลา 2 ทุ่มครึ่ง
แกจะลุกจากเตียงขึ้นมาจะเข้าห้องน้ำแต่ลุกขึ้นมายืน แต่เดินไม่ได้ขาอ่อนไม่มีแรงก้าวขา ตนจึงโทรหาแม่หาน้าให้มาช่วยพาไปโรงพยาบาล และต้องเรียกคนข้างๆบ้านมาช่วยพยุงคือตอนการพยุงเขาขึ้นแบบขาต้องสั่นทั้ง 2 ข้างเลย ไม่มีแรงเลย ขึ้นรถไปโรงพยาบาลประมาณช่วงเวลาก่อน 22.00 น. ไปถึงโรงพยาบาลแล้วก็เข้าไปสแกนหัวใจว่าปกติไหม และพบการเต้นของหัวใจปกติเสร็จแล้วก็ถามทางเราว่าได้ให้ยายทานยาขาดหรือเปล่า ตนก็ยืนยันไปว่าไม่ได้ให้ยาขาดให้ทุกวันเขาก็เลยบอกไปอีกว่าคุณยายมีอาการติดเชื้อในปอด ได้มีอาการสำลักอาหารไหมมีอาการแบบสำลักอาหารหนูก็เลยบอกว่าสำลักวันที่ 10-11 มิ.ย.หลังจากนั้นวันที่ 12 มิ.ย. ก็เอาของใช้ไปให้ยายก็ถามพยาบาลว่าอาการของยายเป็นยังไงบ้าง เขาบอกว่าเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องปอดติดเชื้อไม่ได้พูดถึงเรื่องหัวใจเลย มาพูดเรื่องปัสสาวะอาจจะติดเชื้อก็ได้ส่งตรวจอยู่ถ้าผลตรวจออกมาว่าปัสสาวะติดเชื้อจะให้ยาฆ่าเชื้อและให้กลับบ้านไปพักผ่อนได้ ตอนเย็นหนูโทรไปถามเขาอีกว่าจะให้กลับบ้านได้ยังไง คือในเมื่อยายเขามีอาการล้มมาช่วยให้คุณหมอดูเรื่องกระดูกหรือเรื่องอะไรหน่อยเพราะว่าถ้ากลับมาเดินไม่ได้ มันก็ไม่โอเค ก่อนมาฉีดคุณยายเขาปกติดีแข็งแรงดี เล่นกับเด็กได้เล่นกับหลานได้เดินเข้าห้องน้ำได้เขาก็เลยบอกว่าเดี๋ยวเขาจะขอดูอาการแล้วก็จะส่งส่งไปเอกซเรย์ดูกระดูกส่วนไหนของบ้างหรือเปล่า
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
-‘อนุทิน’ ลั่น! ไม่เคยทำผิดเงื่อนไขเลย วัคซีน ชี้ผู้ผลิตทยอยส่งมาเรื่อยๆ
-ปศุสัตว์โคราช เผยโรค ลัมปี สกิน ระบาดต่อเนื่อง
พอวันที่ 13 หนูโทรไปถามอาการเขาก็ยังบอกว่ายายทานข้าวปกติตอบสนองทุกอย่างหมออาจจะสั่งให้กลับบ้านได้ พอช่วงเที่ยงโทรไปอีกทีนึงเขาก็บอกว่ารู้สึกว่าวันนี้ยายอาการเหนื่อยขึ้นก็เลยอาจจะยังไม่ได้กลับบ้านนะ รอดูอาการก่อนให้ดีขึ้นแล้วค่อยกลับ พอวันที่ 14โทรมาตอน 10 โรงพยาบาลโทรมาตอน 10.30 น. บอกว่าอาการของคุณยายรู้สึกว่ามีอาการเหนื่อยหอบถ้าไม่ไหวก็ขอใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ ตนก็เลยงงว่าเมื่อ 2 วันที่แล้วจะให้กลับบ้านได้ วันนี้บอกจะใส่ท่อช่วยหายใจตนก็อนุญาตให้ใส่แต่ทีนี้พอตั้งสติได้ก็เลยจอดจอดรถแล้วก็โทรถามเขาว่าอาการคุณยายหนักถึงขั้นให้ให้ใส่เครื่องช่วยหายใจเลยหรอ เขาบอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้ให้ใส่นะแต่ขออนุญาตเฉยๆตอนนี้ให้ใส่เป็นสายท่อออกซิเจน อาการโดยรวมดีขึ้น พอถึงเที่ยงคืนหมอโทรมาบอกว่าคุณยายไม่ไหวแล้วคุณยายต้องปั้มหัวใจเราก็เลยงงกับทางโรงพยาบาลเหมือนกันว่า คือตอนแรกบอกอาการดีขึ้นแล้วต่อมาบอกยายอาการหนัก หนูก็เลยบอกหมอว่าคุณยายไม่ไหวแล้วใช่ไหมถ้าไม่ไหว
