ชาวเน็ตต่างพากันส่งกำลังใจให้กับนายแพทย์หนุ่ม ซึ่งกำลังต่อสู้กับโรค มะเร็งต่อมไทรอยด์ในระยะแพร่กระจาย

ใครจะคาดคิดคนที่มีชีวิตดีสุขภาพแข็งแรงวันหนึ่งอาจจะป่วยเป็นโรคร้ายแรงแบบไม่รู้ตัวก็ได้ เมื่อเฟซบุ๊ก “Supapong Wangthammanoon“ ของ นพ.ศุภพงษ์ หวังธรรมนูญ หรือ “หมอป่อง“ ปัจจุบันใช้ทุนเป็นแพทย์พี่เลี้ยงอายุรศาตร์ รพ.ลำปาง มีข้อความระบุว่า ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงๆ ตนนายแพทย์อายุ 24 ปี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ มีแค่อดนอนตอนเข้าเวร เตะบอลสัปดาห์ละ 3 ครั้งๆ ละ 2 ชม. ไม่มีอาการผิดปกติ แต่ผลที่ได้รับ “มะเร็งไทรอยด์” แพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลือง ซึ่งยังถือเป็นระยะต้นๆ โดยก่อนหน้าเข้าผ่าตัด OR เป็นรอบที่ 2 ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา อยากพูดความในใจ ตนคิดทบทวนดีแล้วก่อนที่จะโพสต์ให้ทุกคนรับรู้ มะเร็งไทรอยด์ที่ตนสู้อยู่ตอนนี้ อาจหนักและกะทันหันเกินกว่าหมอจบใหม่อายุแค่ 24 ปีคนหนึ่งจะรับไหว จากความรู้ที่เรียนมา พยากรณ์โรคค่อนข้างดี โอกาสมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างน้อย 20 ปี ถึงจะน้อยหรือมากกว่า 20 ปี ก็มากพอที่จะทำตามฝันให้สำเร็จ คือ การเป็นแพทย์อายุรกรรม

“ผมอยากเรียนอายุรกรรมต่อให้จบ แล้วก็กลับมาต่อ fellow endocrine med ที่ราชวิถี จบไปเป็นอาจารย์หมอ med สอนรุ่นน้อง นศพ.รังสิตของผม มันเป็นสิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว ผมอยากพาน้องราวด์วอร์ด สอน approach เคสคนไข้ สมัยเรียน นศพ. ผมทำสรุปชีทแนวข้อสอบ NL1,2,3 OSCE ลงกอง ออกมาเยอะจนไม่ได้นับว่ากี่ชุดแล้ว ถ้าผมต้องจากโลกนี้ไปจริงๆ ผมอยากทำหน้าที่เป็นอาจารย์หมอของสถาบันฯ รังสิตให้ได้ก่อนครับ“ แพทย์หนุ่ม กล่าวจากใจ

นพ.ศุภพงษ์ ยังระบุว่า ตนยังมีเวลาให้กับกีฬาฟุตบอลที่ชื่นชอบ เล่นและทุ่มเทให้กับทุกแมตช์ ราวกับเป็นแมตช์สุดท้ายของชีวิต เพราะไม่รู้ว่าจะได้เล่นฟุตบอลอีกทีเมื่อไหร่ แต่ก็ดีใจทุกครั้งที่ทำประตูได้ ยิงเข้า 1 ลูก เหมือนช่วยชีวิตคนไข้ได้ 1 คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ตนไม่เคยเสียใจเลย แม้อยู่ระหว่างที่ก้อนเนื้อร้ายโตขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ยังคงทำงานอยู่ที่ รพ.ลำปางแห่งนี้ ตนกลับดีใจที่ได้ช่วยคนไข้ ถึงบางครั้งจะโง่และประสบการณ์น้อย แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม ช่วยคนไข้หายป่วยและกลับบ้าน ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่า จะได้กลับไปทำงานอีกตอนไหน แต่ถ้าหายดีแล้วจะกลับไปแน่นอน เพราะไม่เคยมีความคิดว่า เป็นโรคนี้แล้วจะต้องลาออก

“ขอโทษคนไข้ ที่จู่ๆ ผมหายไป มีหลายเคสที่ผมนัดมาปรับน้ำตาล ยาเบาหวาน ความดัน แต่ผมไม่มีโอกาสได้กลับไปดูเลยครับ ช่วงนี้ที่ลำปางเป็นหน้าข้าวเหนียวด้วย คนไข้คงน้ำตาลพุ่งสูง และขอบคุณทุกคนที่ถามไถ่อาการ ผมรับรู้ถึงความห่วงใยและกำลังใจ ขอบคุณจริงๆ เวลาของผมเหลืออีกเท่าไร ผมจะขอเต็มที่กับมัน อยากจบไปเป็นอาจารย์หมอ อยากเป็นกองหน้าที่ดีของทีมฟุตบอล รพ.ลำปาง ครับ“ นายแพทย์รายนี้ กล่าวทิ้งท้าย.

 

ที่มา – dailynews , @Supapong Wangthammanoon