เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อ วันที่ 29 มิ.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าครม.เห็นชอบหลักการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากประกาศฉบับที่ 25 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด10 จังหวัด โดยในส่วนกทม.และปริมณฑล 6 จังหวัด จะช่วยแรงงานและผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ก่อสร้าง ที่พักและบริการด้านอาหาร ศิลปความบันเทิง นันทนาการ และอื่น ๆ เช่น ซ่อมคอมพิวเตอร์ รองเท้า เสื้อผ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่อใช้เครื่องครัว ธุรกิจสปา ลดน้ำหนัก ร้านทำผม ทำเล็บ ซักรีด เป็นต้น เป็นเวลา 1 เดือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ณวัตร” โพสต์แรงถึง “พล.อ. ประวิตร” ถ้าเหนื่อยก็ลาออก อย่าทรมานคนไทย!

ตำรวจบุกรวบ ! จับหนุ่มลักลอบ ” ปลูกกัญชา ” ในห้อง

ประกาศราชกิจจานุเบกษา ‘ล็อกดาวน์กรุงเทพ-ปริมณฑล 4 จังหวัดใต้’ มีผล 28 มิถุนายน 2564

โดยกลุ่มแรงงานที่เป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่มีสัญชาติไทย จะได้รับเงินเพิ่ม 2,000 บาท นอกเหนือจากเงินตามระบบประกันสังคมปกติ กรณีประโยชน์ทดแทนการว่างงาน ร้อยละ50 และสูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท ตลอดเวลาที่สั่งปิด

สำหรับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติมสูงสุด ดูตามจำนวนรายของลูกจ้างที่มีจำนวน 3,000 บาทต่อหัว สูงสุดไม่เกิน 200 ราย ส่วนกรณีผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้างให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นถุงเงิน ผ่านโครงการคนละครึ่ง ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค.64 เพื่อได้รับความช่วยเหลือเป็นเงิน 3,000 บาท

สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในหมวดของร้านอาหาร หรือเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคมก็จะได้รับการช่วยเหลือ 3,000 บาท เช่นเดียวกันโครงการคนละครึ่งจะมีหมวดที่ชัดเจนให้ระบุว่าทำกิจการอะไร

นาย อนุชา เป็นผู้ตอบคำถามแทนนายกรัฐมนตรี ในส่วนของมาตรการปิดแคมป์คนงาน ทางกระทรวงแรงงานมีมาตรการการเยียวยา โดยจะเข้าไปควบคุมดูแลร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ทั้งเรื่องอาหารการกิน ความเป็นอยู่ โดยจะตรวจทุก 5 วันและจ่ายเงินสดให้กับแรงงาน ซึ่งจะจ่ายเงินสดให้กับแคมป์คนงานทุก 5 วัน โดยจะเข้าไปเช็กรายชื่อทุกวัน พร้อมกับผู้ประกอบการ