‘มนัส บุญจำนงค์’ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก โดนแจ้งจับ! ข้อหาฉ้อโกงขายสลากกินแบ่งฯ พร้อมรับทราบข้อหา
เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 นายมนัส บุญจำนงค์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก 2004 พร้อมด้วยทนายความได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีถูกกล่าวหาหลอกขายล็อตเตอรี โดยมีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางมาที่ สน.ดอนเมืองด้วย เบื้องต้นพนังงานสอบสวน แจ้งข้อหา ฉ้อโกง โดยภายหลังรับทราบข้อหาพนักงานสอบสวนได้ทำการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากนายมนัส เข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกด้วยตัวเอง

นายอานนท์ พินิจกุล ผู้เสียหายได้เปิดเผยว่า รู้จักกับนายมนัสผ่านเพื่อนๆ ที่เป็นกลุ่มเตะบอล ช่วงเดือน ธ.ค.63 นายมนัส ได้เข้ามาร่วมในกลุ่มด้วย และมีการชักชวนเพื่อนคนอื่นซื้อสลาก โดยอ้างว่าตนเองได้โควตาสลากมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นโควต้าของนายสมรักษ์ คําสิงห์ เพื่อนนักมวย ตนจึงสนใจและติดต่อซื้อสลากกับนายมนัส ซื้อกัน 3 งวด งวดแรกมีการจ่ายเงินและได้สลากจริง แต่งวดที่ 2 และ3 มีการจ่ายเงินไปรวมกว่า 1,452,000บาท ซึ่งนายมนัสอ้างว่าหาสลากไม่ได้ และไม่ยอมคืนเงินให้โดยอ้างว่าถูกโกงจนไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ แต่ก็จะพยายามหาเงินมาคืนให้

ผู้เสียหายอ้างว่า ก่อนหน้านี้มีการผลัดการคืนเงินหลายครั้ง จนตนต้องตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ดอนเมือง ซึ่งในตอนนั้นมีการไกล่เกลี่ยกันโดยนายมนัส ยอมที่จะคืนเงินให้ โดยมีการจ่ายเช็คจำนวน 3ใบ แต่ปรากฏว่าเช็คที่จ่ายออกมาไม่สามารถขึ้นเงินได้ หรือ เช็คเด้ง
นายเอกไท จีระตระกูล ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่าในกรณีของตนเองก็คล้ายกับกรณีแรก เหตุที่ตนเชื่อถือ และร่วมลงทุนด้วยนั้นมาจากการที่นายมนัส ซึ่งถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงระดับหนึ่งประกอบกับได้มีการอ้างถึงบุคคลคนที่มีชื่อเสียงอีกคน และมีการส่งรูปสลากฯจำนวนหนึ่งมาให้ดู เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือว่ามีสลากฯจริงๆ แต่พอตกลงซื้อขายตนโอนเงินให้นายมนัส จำนวน 632,000บาท ภายหลังเกิดเรื่องนายมันสได้โอนเงินคืนตนมา 172,000 บาท เพื่อทำให้ตนเชื่อว่าจะได้ที่เหลือคืนและเพื่อนไม่ให้ตนแจ้งความ แต่กลับเบี้ยวจ่ายส่วนที่เหลือ เมื่อทวงถามก็มีการผลัดวันเรื่อยๆ จนตนต้องเดินทางเข้าแจ้งความ
ขณะที่ นาวาตรี สมรักษ์ คําสิงห์ อดีตนักมวยโอลิมปิก 1996 และเป็นผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่าขายล็อตเตอรี่ให้กับนายมนัส เผยว่า ยอมรับว่าเคยมีการซื้อ-ขาย ล็อตเตอรี่ กับนายมนัสจริง แต่แค่เพียง 1 งวดเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นนายมนัสได้โอนเงินมาให้ตน 8 ล้านบาท เพื่อซื้อล็อตเตอรี่ แต่ตนมีล็อตเตอรี่ให้แค่ 4 ล้าน จึงโอนเงินส่วนต่าง 4ล้านบาทคืนนายมนัสไป หลังจากนั้นนายมนัสก็หายไปเลยไม่ได้มีการติดต่อซื้อขายกันอีก กระทั่งเกิดเรื่อง ผู้เสียหายโทรมาหาตนเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งตนก็ได้อธิบายไปตามความจริงที่เกิดขึ้น ส่วนตัวนายมนัสมีโทรมาปรึกษาบ้าง แต่ตนก็พยายามมบอกนายมนัสให้หาเงินมาคืนผู้เสียหาย ส่วนที่ว่านายมนัสมีปัญหาเรื่องเงิน หรือมีหนี้สินอะไรหรือไม่ตนไม่รู้และไม่ขอเกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซ้ำเติมคนไทยด้วยกันเอง วินโกง วินเถื่อน เก็บค่าโดยสารเกินกำหนด เมื่อคนไปส่งฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ
- เตือนคนที่โกงโครงการเยียวยารัฐและคนที่กำลังคิดอยากจะทำ ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้