นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Chatchai Mingmalairak ระบุถึงภาวะที่บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ไม่ได้รับ วัคซีนโควิด ตามที่ร้องขอไป ทั้งที่เป็นพื้นที่สำคัญในการดูแลรักษาโควิด 19 มาทุกระลอก
ข่าวอื่นๆเพิ่มเติม
- กรมควบคุมโรคแจง ! ไม่ได้จัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ให้หมอยง ชี้ศูนย์ฯ ดูแลบุคลากรดีไม่ต้องกระตุ้นภูมิ
- ไฟเซอร์ ถึงมือใครบ้าง ! เช็คด่วน แพทย์ด่านหน้าได้ครบหรือไม่
เปิดเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วกว่า 1 แสนคน มีโรงพยาบาลสนาม 400 เตียง ในโรงพยาบาลก็ดูแลผู้ป่วยหนัก 100 เตียง รวมทั้งดูแลผู้ป่วย Home isolation กว่า 1,000 คน แต่กลับได้รับจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์มาแค่ 60% จากรายชื่อที่ขอไป ทั้งที่ยอดนี้เป็นตัวเลขเฉพาะด่านหน้าที่จำเป็นจริง ๆ ไม่รวมหลายคนที่ไม่รอการจัดสรรและฉีดแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้วเพราะไม่เชื่อใจในการบริหารวัคซีนของรัฐบาล
ยืนยันว่า ทุกคนทำงานหนักและต่อสู้มาโดยตลอดและถือเป็นหน่วยงานด่านหน้าอย่างแท้จริง จึงตั้งคำถามว่า มีเหตุผลอะไรที่จะจัดสรรมาให้เราเพียง 60% เท่านั้น แถมยอดนี้ยังพ่วงรวมกับของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงมาอีก และใช้มาตรฐานอะไรในการจัดสรรเมื่อเทียบกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่อาจไม่ได้ดูแลคนไข้โควิดเลยด้วยซ้ำ จะมีสักครั้งหรือไม่ที่ตัดสินใจถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรก และจะให้โรงพยาบาลส่งรายชื่อไปทำไมหากจะจัดสรรมาแบบนี้
ซึ่งจะยิ่งสร้างความแตกร้าวในกลุ่มคนทำงาน ที่ทั้งมีการตัดพ้อ หรืออาจจะน้อยใจว่า ทำไมคนอื่นได้แต่ตัวเองไม่ได้ ยิ่งเป็นการบั่นทอนขวัญกำลังใจของด่านหน้าเพิ่มไปอีกถ้ายังบริหารโควิดแบบนี้ แม้บุคลากรด่านหน้าทนไหวแม้จะเหนื่อยกับการดูแลผู้ป่วย แต่ท้อกับการบริหารโควิด
อย่างไรก็ดีทุกคนไม่เคยท้อที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แม้รู้ว่ายังไม่เห็นอนาคตอะไรเลย แต่ที่ยังสู้ต่อไปไม่ใช่เพราะท่าน (ผู้มีอำนาจ) แต่เป็นเพราะเราจะไม่ทอดทิ้งประชาชนที่ยังคงรอความหวังจากเราอยู่ โดยทิ้งท้ายว่า ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน และให้วัคซีนไฟเซอร์แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าครบทุกวัน
ทั้งนี้ นพ.ฉัตรชัย ยังมีการโพสต์สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด่านหน้าโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ที่ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย และถือเป็นกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วย โควิด 19 เป็นอย่างมาก แต่กลับได้รับวัคซีนไฟเซอร์ เพียง 60% จากที่ร้องขอไป
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก Chatchai Mingmalairak