สมรักษ์ เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก คดี ส.จ.ดำ ยิง 4 ศพ เผยว่าส่วนตัวรู้จักถือว่าเป็นคนดีและมีเรื่องเงินลอตเตอรี่ที่ติดค้าง 10 ล้านจริง ด้านตำรวจสืบสวนยังมุ่งปมสังหารหนี้สิน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 64 น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยสากลทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ไชยา บัวมาศ รอง สว. “สอบสวน”สน.หัวหมาก เพื่อให้ปากคำกรณีที่เป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ของ นายธวัชชัย ทองอ่อน หรืออดีต ส.จ.ดำ ที่ก่อเหตุยิงภรรยาและลูกสาว ก่อนยิงตัวเอง เสียชีวิตรวม 4 คน ในบ้านพักย่านถนนกรุงเทพกรีฑา 7 เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา
น.ต.สมรักษ์ กล่าวก่อนเข้าให้ปากคำว่า ส.จ.ดำ เป็นคนดีและเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอด ชอบช่วยเหลือสังคม ชอบเล่นกีฬา โดยตนกับ ส.จ.ดำ เริ่มต้นซื้อขายลอตเตอรี่กันหลังจากที่ตนถูกโกงลอตเตอรี่รอบแรกจากนั้น ส.จ.ดำ ได้ติดต่อมาหาตน บอกว่าทำอยู่และชักชวนตนมาซื้อลอตเตอรี่ ซึ่งซื้อขายกันรวม 5 งวดงวดที่ 1-2 ได้ครบตามที่ตกลงกัน แต่งวดที่ 3-4 เริ่มไม่ครบ ขาดบ้างเล็กน้อย แต่งวดที่ 5 ไม่ได้รับเลยแม้แต่ใบเดียว ซึ่งรวมแล้ว ส.จ.ดำ เป็นหนี้ตนประมาณ 10 ล้านบาท
น.ต.สมรักษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ส.จ.ดำ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาตน ระบุว่า ให้ช่วยเจรจากับชาวบ้าน ขอผ่อนใช้เงินคืนรอบละ 2.5 ล้าน 4 รอบ ได้หรือเปล่า ซึ่งตนก็ตกลง ส.จ.ดำ จึงนัดตนมาพบเมื่อวานนี้ที่ร้านอาหารเสบียงทิพย์ของเจ้าตัว ในเวลา 14.00 น. เมื่อมาถึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อ แต่ ส.จ.ดำไม่รับสาย จึงได้ถามพนักงานในร้านว่าติดต่อได้หรือไม่ ส.จ.ดำ ให้คำตอบกับพนักงานว่า อีกสักครู่จะเข้ามา แต่หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง พบตำรวจสืบสวน สน.หัวหมาก ไปที่ร้านและถามหาภรรยาของส.จ.ดำ กับพนักงานที่ร้าน
ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปสอบถามได้คำตอบว่า ตำรวจได้รับแจ้งจาก รปภ.ในหมู่บ้านว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 7-8 นัด ตนรู้สึกไม่ดีจึงขอไปดูที่บ้านพักของเจ้าตัว เมื่อไปถึงก็พบกับเหตุสลดดังกล่าว ส่วนตัวรู้สึกไม่ดีเหมือนตนเป็นต้นเหตุให้เพื่อนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุได้มีทนายความหลายคนโทรเข้ามาให้คำปรึกษาเพื่อดำเนินการกับหนี้สินที่ผู้ตายค้างตนไว้อยู่ แต่ตนยืนยันว่าจะยุติปัญหาทั้งหมดเพราะสงสารครอบครัวและญาติพี่น้อง พร้อมกบอยากจะบวชให้ แต่ถ้ายังบวชไม่ได้จะใช้วิธีนุ่งขาวห่มขาวให้เพื่อนไปสู่สุคติ
ด้าน พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล รอง ผบก.น.4 รับผิดชอบงานสอบสวน ได้เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีการนำภาพวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านพักที่เกิดเหตุ ก่อนและหลังเกิดเหตุ 3 ชั่วโมงมาตรวจสอบว่ามีบุคคลต้องสงสัยเข้าไปในบ้านหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบบุคคลต้องสงสัยเข้าไปในบริเวณบ้านแต่อย่างใด ส่วนประเด็นการก่อเหตุยังพุ่งเป้าไปที่ปัญหาส่วนตัวเรื่องหนี้สิน และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อม ประกอบด้วยเพื่อนบ้านผู้แจ้งเหตุ รปภ. ญาติฝั่งภรรยาของผู้ตาย และสมรักษ์ คำสิงห์ รวม 4 ปาก
รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจในคดีสะเทือนขวัญสังคม การทำคดีของพนักงานสอบสวนต้องละเอียดรอบคอบ และไม่ชักช้า ยืนยันตำรวจจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่วนจะสรุปสำนวนคดีได้เมื่อไหร่ ยังไม่สามารถตอบได้ อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรจากแพทย์อีกครั้ง