เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 

“บิ๊กตู่”…!! ประยุทธ์ เปิดท่าเรือปากเมง เตรียมยื่น 4 โครงการ งบประมาณ 498 ล้านบาทเสนอครม.สัญจร

วันที่ 13 พฤศจิกายน นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง พร้อมด้วย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ท่าเรือปากเมงต.ไม้ฝาด อ.สิเกา เพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีกำหนดลงพื้นที่ จ.ตรัง ในวันที่ 16 พฤศจิกายน เพื่อเป็นประธานในพิธี “เปิดท่าเรือปากเมง เปิดประตูสู่อันดามัน”

ทั้งนี้เนื่องมาจากอายุการใช้งานของท่าเรือปากเมงที่มีมากกว่า 30 ปี ทำให้ท่าเรือปากเมง มีสภาพชำรุดทรุดโทรม อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ รัฐบาลจึงได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 144,161,000 บาท โดยกรมเจ้าท่า ดำเนินการปรับปรุงท่าเรือปากเมง อ.สิเกา จ.เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอันดามัน เพิ่มศักยภาพทางด้านการรองรับนักท่องเที่ยว

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

-หาแนวร่วม สร้างห้องน้ำให้ผู้ด้อยโอกาส บ้านวังไคร้ อ.สามเงา จ.ตาก..?

-ผัวฉุน หลังถามหา ข้าวอยู่ไหน !! ก่อนโมโหหิว ลงไม้ลงมือกับเมีย

 

นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า เตรียมเสนอโครงการต่อ ครม.สัญจร จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการศูนย์เรียนรู้และอนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง งบประมาณ 247ล้านบาท เพื่อเป็นเป็นศูนย์อนุบาลพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก รวมถึงในเรื่องของการปรับปรุงอควาเรียมเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดใหม่ของ จ.ตรัง

2.โครงการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวบ่อน้ำร้อน อ.กันตัง โดยใช้งบประมาณจำนวน 20 ล้านบาท ปรับปรุงตัวบ่อ ปรับปรุงตัวอาคารให้ได้มาตรฐานเพื่อจะรองรับทั้งพี่น้องประชาชน โดยบ่อน้ำร้อนแห่งนี้ถือว่ามีศักยภาพมากเพราะทาง มอ.สงขลานครินทร์ได้นำผลน้ำไปวิจัยไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีกำมะถันน้อยมาก ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็น และมีแคลเซียมถึง 75 เปอร์เซ็น นอกจากที่นี่จะเป็นบ่อน้ำร้อนแล้วยังมีทางเดินธรรมชาติระยะทางกว่า 350 เมตร รวมทั้งมทองไกลไปถึงเรื่องการทำสปาสมุนไพร เพื่อจะได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงจร

3.โครงการปรับปรุงสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง ให้มีมาตรฐาน โดยใช้งบประมาณจำนวน 69 ล้านบาท โดยจะปรับปรุงใน 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ได้แก่ตัวภายใน โรงยิม 4,000 ที่นั่ง ในการติดตั้งแอร์ สกอร์บอร์ด ส่วนที่ 2 ได้แก่ การปรับปรุงลู่วิ่ง ตัวสนาม และโครงการที่

4.เป็นโครงการขุดลอกร่องน้ำ อ.กันตัง ของกรมเจ้าท่า โดยใช้งบประมาณจำนวน 162 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้ขุดมากว่า 2 ปีแล้ว เพื่อให้มีความลึกตามมาตรฐานประมาณ 5.5 เมตร

ทั้ง 4 โครงการนี้เป็นโครงการสำคัญ รวมยอดงบประมาณจำนวน 498 ล้านบาท ซึ่งคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนชาว จ.ตรัง โดยโครงการที่เรานำเสนอเป็นโครงการที่มีศักยภาพมาก และมีต้นทุนของแหล่งท่องเที่ยวอยู่แล้ว

สิ่งสำคัญตอนนี้พยายามให้เอกชนเข้ามาช่วยดูในเรื่องของการบริหารแบบมืออาชีพ และการประชาสัมพันธ์ที่ทำให้แหล่งท่องเที่ยวจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างไรให้เข้ามามากยิ่งขึ้น เดิมทีท่าเทียบเรือปากเมงแห่งนี้ทรุดโทรมอย่างมาก ใช้งานมาเกือบ 30 ปีแล้ว จนกระทั่งได้รับงบประมาณมาก่อสร้างใหม่มีมาตรฐาน และต้องบอกว่าท่าเรือแห่งนี้เป็นศูนย์รวมสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวใน จ.ตรัง เช่น ถ้ำมรกต เกาะมุก เกาะเชือก เกาะไหง และเกาะกระดาน โดยท่าเรือแห่งนี้สามารถเป็นท่าเรือที่นักท่องเที่ยว สามารถเชื่อมโยงไปเที่ยวที่เกาะลันตา จ.กระบี่ หรือเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูลได้อีกด้วย ถือว่าเป็นวงแหวนที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังแหล่งอื่นๆได้ และสุดท้ายในเรื่องของมารีน่าชุมชน ก็อยู่ในแผนที่เราจะพูดคุยในการดำเนินการต่อไป

นายประทีป โจ้งทอง รองนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตรัง กล่าวว่า ที่ผ่านมา จ.ตรัง เราได้รับโครงการต่างๆน้อยมาก สังเกตเห็นว่าแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพยังมีอีกเยอะแยะ โดยเฉพาะบ่อน้ำร้อน ใน อ.กันตัง ซึ่งมีความเด่น ก็ถือว่าการเสนอขอในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะน่าจะได้มาตั้งนานแล้ว เช่นเดียวกับท่าเรือปากเมงแห่งนี้ในอดีตต่างมองไม่เห็นถึงคุณค่า แต่เมื่อก่อสร้างให้จนเสร็จ กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่แค่จุดลงเรือเพียงอย่างเดียว แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และจุดถ่ายภาพ เนื่องจากมีความโดดเด่นในการออกแบบเป็นรูปทรงปลากระเบน แล้วรอบๆจะมีเกาะเมง และเกาะอื่นล้อม โดยเป็นโลเคชั่นที่สวยมาก และเป็นจุดที่มีความปลอดภัย ตัวอย่างขณะเกิดสึนามิ ท่าเรือปากเมงไม่มีคลื่นเข้ามา และไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีเกาะต่างๆบังไว้ และยังเป็นหน้าตาของฝั่งทะเลอันดามัน

ทั้งนี้หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ยอดนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทยในกลุ่มครอบครัว เกือบ 100 เปอร์เซ็น ขณะนี้ยอดการจองทัวร์ตั้งแต่เดือนธันวาคม 64 ที่จะถึงนี้ มีจำนวนมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มครอบครัว พักพวกเพื่อนฝูง ในส่วนของกรุ๊ปทัวร์ก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ แต่เมื่อเปิดท่าเรือแห่งใหม่แล้วเชื่อว่าจะมานักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่เพิ่มมากขึ้น และอีก 3 ปีหลังจากนี้ บริเวณท่าเรือแห่งนี้จะแออัดเป็นอย่างม