เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

           สืบเนื่องมาจากสาถานการณ์โรคระบาดยังไม่หมดไป ล่าสุดเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาชี้แจงดราม่า ลูกชายนายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่สวมหน้ากากอนามัยในกิจกรรมสังสรรค์ช่วงปีใหม่ ที่ถูกแชร์ว่อนในโซเชียล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อนุทิน เผยตอนนี้ประเทศไทยเจอผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 63 ราย และรอยืนยันผลอีกจำนวน 20 ราย

อนุทิน ลั่นต้องพร้อมกว่านี้ ยันความปลอดภัยเป็นหลัก ก่อนเปิดผับบาร์ ย้ำประเทศไทยไม่ขาดแคลนวัคซีน ทุกคนมารับได้

โดยโพสต์ภาพลูกนายอนุทินในงานเลี้ยงช่วงปีใหม่ที่ไม่ได้ใส่หน้ากาก ซึ่งเป็นภาพจากไอจีของลูกชายนายอนุทินเองกับภาพคำพูดของนายอนุทินที่บอกว่ารัฐบาลทำเต็มที่แล้ว แต่คนไม่เคารพมาตรการ เห็นแก่ตัว ก็ติดเชื้อ กราฟกำลังจะสวย ประเทศจะได้ผ่อนคลายหลายๆอย่างได้ มีไม่กี่คนรักสนุก ไม่คิดถึงคนอื่นทำให้ติดเชื้อขึ้นมาเป็นหลักสามพันราย


ซึ่งมีการแชร์โพสต์นี้ไปมากกว่า
4 หมื่นครั้ง และมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์นายอนุทินจำนวนมาก ต่อมานายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ที่ผ่านมามีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น 2-3 เรื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อนายอนุทิน จึงขอชี้แจงทุกเรื่องไปพร้อมกันประเด็นแรก การกล่าวหานายอนุทิน จากการให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม แท้จริงแล้ว นายอนุทินต้องการตำหนิผู้ที่ละเลยมาตรการด้านสาธารณสุข จนนำมาซึ่งการระบาดของโควิด

และที่ผ่านมาชัดเจนว่าร้านอาหารกึ่งผับละเลยมาตรการ กลายเป็นจุดระบาดที่สำคัญ เป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขกังวลมาก นี่คือเรื่องที่ท่านสื่อสาร แต่กลับมีการนำเสนอ เพื่อชี้ให้เห็นว่าท่านกำลังกล่าวโทษประชาชนทุกคนที่ติดเชื้อ ซึ่งไม่เป็นความจริง ที่ท่านตำหนิคือ พวกที่ไม่มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมเท่านั้น อีกประเด็นที่ นายวัชรพงศ์ ชี้แจงคือ เรื่องบุตรชายของนายอนุทิน โดยระบุว่า เป็นการจัดงานในสถานที่เปิดโล่ง และที่สำคัญคือ ในงานมีผู้สูงวัย เป็นจำนวนมาก ซึ่งกว่าจะผ่านการคัดกรองเข้ามาร่วมงานได้ ต้องมีการตรวจอย่างรัดกุมที่สุด มีการตรวจหาเชื้อ และต้องยื่นเอกสารยืนยันการรับวัคซีนให้ครบถ้วน เพราะผู้สูงวัย คือ กลุ่มเสี่ยงป่วยหนักแม้จะได้รับวัคซีน ก็ต้องระวัง ดังนั้น ผู้จัดงานไม่ประมาทแน่นอน


กรุณาอย่าเปรียบเทียบกิจกรรมนี้
กับการแพร่ระบาดในสถานบันเทิง เพราะ มาตรการต่างๆ ในกิจกรรมนี้ มีความเข้มงวดอยู่แล้ว เนื่องจากมีกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่ม 608 ร่วมกิจกรรมอยู่ด้วยและเป็นงานแบบปิด ไม่ได้เปิดให้สาธารณะเข้าร่วม จัดกันในที่โล่ง รับประทานอาหารกันเฉพาะครอบครัว มีมาตรการคัดกรองก่อนเข้างาน แต่กลับโดนวิพากษ์ วิจารณ์ ทั้งที่เป็นกิจกรรมที่ทำถูกต้อง ตรงนี้ ต้องขอความเป็นธรรมด้วย