งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะฉาวกว่าใครกันแน่ จากกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันคนหนึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย โดยได้รับคำแนะนำจากคนในกลุ่มเฟซบุ๊กให้ไปลองใช้บริการนวดแผนไทยที่ร้านนวดชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อนที่นักท่องเที่ยวสาวคนดังกล่าวถูกพนักงานนวดชายพยายามที่จะกระทำอนาจาร ก่อนจะพยายามโทรแจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สายไม่ว่าง จนเธอกับเพื่อนต้องเดินทางไปที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด เพื่อที่จะพบว่าคดีไม่มีความคืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น ด้วยฝ่ายพนักงานนวดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ในทุกสื่อของประเทศไต้หวันในวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา
โดยเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เวลาประมาณ 16.30 น. มี น.ส.เอ (นามสมมติ) นักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. เวลาประมาณ 18.00 น.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายกับเพื่อนสาวชาวไต้หวันได้ไปใช้บริการนวดที่ร้านนวดแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งทั้ง 2 นวดฝ่าเท้าที่บริเวณชั้น 1 ของร้านก่อนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง มีนายภูริวัฒน์ พนักงานร้านนวดเป็นผู้ให้บริการนวดให้ผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายขึ้นนวดแผนไทยต่อที่บริเวณชั้น 2 ของทางร้าน ส่วนเพื่อนสาวแยกไปนวดแผนไทยที่บริเวณชั้น 3 ของทางร้าน
ต่อมาขณะที่นวดนั้น พนักงานรายนี้ได้กระทำอนาจารและทำการข่มขืนผู้เสียหาย โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 นาที เมื่อข่มขืนจนเสร็จแล้วนายภูริวัฒน์เดินกลับไปบริเวณชั้นล่างของทางร้าน และกลับไปทำงานตามปกติ ส่วนตัวผู้เสียหายก็ได้ลงมาชำระเงินค่านวด และเดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม ก่อนเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดังกล่าว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว จึงได้สอบสวนปากคำผู้เสียหาย รวมทั้งพยานที่เกี่ยวข้อง และส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจตามขั้นตอน จากนั้นทางตำรวจฝ่ายสืบสวน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเชิญตัวนายภูริวัฒน์ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อมอบตัว พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และสอบสวนปากคำผู้ต้องหา
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ อ้างว่ามีเพศสัมพันธ์กับน.ส.เอนักท่องเที่ยวรายนี้จริง แต่ทางผู้เสียหายได้ยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยไม่มีการขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด และเมื่อนวดเสร็จแล้ว ผู้ต้องหาได้ลงมาที่บริเวณชั้นล่าง เพื่อทำงานตามปกติ
จากนั้นผู้เสียหายเดินตามลงมา และนั่งรอเพื่อนสาวอีกรายอยู่ที่บริเวณชั้นล่าง เมื่อเพื่อนสาวลงมาจากชั้นบนแล้วน.ส.เอ จึงมาจ่ายเงินที่บริเวณเคาน์เตอร์ โดยจ่ายเงินเป็นค่านวดจำนวน 200 บาท หนำซ้ำยังให้ทิปแก่ผู้ต้องหาอีกจำนวน 100 บาท ด้วย