วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ล่าสุดเพจ เฟซบุ๊กเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3” ได้โพสต์เรื่องของคุณแม่ท่านหนึ่งที่สูญเสียลูกชายหลังติดเชื้อโควิด โดยระบุข้อความว่า โรคลองโควิด คืออะไร คุณแม่ท่านหนึ่งมาโพสต์แชร์ประสบการณ์ เรื่องราวมีประโยชน์มากๆ และคำถามที่ยังคาใจ ที่รอคำตอบจากหน่วยงาน
โดยคุณแม่ท่านนี้ เล่าว่าสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย ที่แม่ๆ หลายๆ คนถามมา อาจารย์หมอวินิจฉัยว่า น้องเป็น “โรคลองโควิด”
โรคลองโควิด คือ การที่เด็กเคยติดโควิดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่แสดงอาการ ทุกอย่างจะปกติ แต่พอหลังจากหาย 2-6 อาทิตย์ แล้วกลับมาติดซ้ำ ทุกอย่างข้างในคือจะล้มเหลวหมดแล้ว และจะทรุดตัวลงทันที ก่อนหน้าที่น้องจะเสียชีวิต น้องอาการปกติดีทุกอย่าง ร่าเริง ขี้เล่น ไม่มีอาการซึมเศร้าหรืออ่อนแรงเลย ก่อนที่คืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ น้องมีอาการไข้ขึ้น ตัวร้อน ก็คิดว่าเป็นไข้ปกติ ให้น้องทานยาแก้ไข้ แล้วเช็ดตัว
ตอนเย็น วันที่ 17 กุมภาพันธ์ น้องไข้ขึ้นสูงมาก พาน้องไปโรงพยาบาลที่มีสิทธิรักษาอยู่ พอไปถึงทางโรงพยาบาล บอก สิทธิถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลอีกแห่งแล้ว และให้ไปรักษาที่นั่นจึงถามพยาบาลว่าทำไมย้ายสิทธิไม่แจ้ง พยาบาลบอกว่าไม่จำเป็นต้องแจ้ง แล้วยังให้นั่งแท็กซี่ไปยังโรงพยาบาลที่สองเอง โดยระหว่างทางน้องมีอาการเหมือนจะอ้วก และอึออกมา พอมาถึงโรงพยาบาลหมอก็ทำการช่วยชีวิตน้อง
จากนั้น วันที่ 18 กุมภาพันธ์ คุณหมอโทรมาแจ้งว่า น้องเป็นโรคลองโควิด สายพันธุ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ต้องรีบส่งตัวไปให้อาจารย์หมอที่ รพ.ศิริราช รักษาตัว
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ทาง รพ.ศิริราช โทรมาแจ้ง ให้เราทุกคนทำใจ เพราะหัวใจน้องพร้อมจะหยุดเต้นนาทีต่อนาที และจะทดลองให้ยาแรงเพื่อรักษา ก่อนที่น้องจะหัวใจหยุดเต้น โดยคุณหมอปั๊มหัวใจอีกหลายรอบ น้องก็ไม่กลับมา และน้องก็จากพวกเราไปในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 แบบที่ทุกคนในครอบครัวตั้งเราไม่ทัน
ทั้งนี้ สิ่งที่คุณแม่ท่านนี้อยากให้ทุกคนระวังคือ หากลูกมีไข้ ไอ เป็นหวัดให้สงสัยว่าใช่หรือเปล่า และการซื้อยามากินเอง จะยิ่งทำให้กดทับอาการไว้ แบบนี้อันตราย ทางที่ดีแนะนำให้ไปหาหมอ ทันทีที่ลูกมีอาการผิดปกติ
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่คาใจ คือ ทำไมโรงพยาบาลแห่งแรก ไม่รักษาน้องในขั้นต้นก่อน และจะย้ายสิทธิไปที่ไหน ทำไมไม่แจ้งอะไรคนไข้เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรมานเหมือนจะตาย! หญิงสาว เจ็บปวดกับอาการ ‘ลองโควิด’
เฉลย 11 คำตอบ โควิด “โอมิครอน” จะระบาดไปอีกนานแค่ไหน ? มีคำตอบ