“รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางรับทราบข้อหาหมิ่นประมาท ปมป่ารอยต่อ พาดพิง “บิ๊กป้อม” มั่นใจไม่หลุดตำแหน่ง ส.ส
วันที่ 18 มี.ค.65 บรรยากาศที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนนนท์เช้านี้ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ในคดีหมิ่นประมาท หลังปราศรัยเรื่องมูลนิธิป่ารอยต่อในรัฐสภา โดยมีมวลชนกลุ่มหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจและปักหลักอยู่ที่บริเวณหน้าสน.บางขุนนนท์ นอกจากนี้ยังมีบรรดาแกนนำพรรคก้าวไกล อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายเพชร กรุณพล ผู้สมัครส.ส.เขตหลักสี่ และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. นครปฐม
ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นทนายของ ส.ส.โรม บอกว่า ส่วนตัวไม่หนักใจในข้อหาที่นายรังสิมันต์ได้รับแจ้ง แต่กังวลใจกับกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ถูกต้อง จากนี้เป็นกระบวนการขั้นตอนที่พนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องไปให้อัยการก่อนส่งฟ้อง ซึ่งจะทำเรื่องขอยื่นประกันตัวในชั้นศาลคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
จากนั้น นายรังสิมันต์ โรมก็เดินทางมาถึงสน.บางขุนนนท์ พร้อมกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยนายพิธาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า มาให้กำลังใจ ส.ส.โรม ส่วนตนเองไม่ได้กังวลใจแต่ก็ไม่ได้ประมาท เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายตรงข้ามทำให้เกิดความกลัว การออกหมายเรียกครั้งแรกคืออยู่ในช่วงการประชุมสภา ซึ่งตนเองไม่สามารถมารับทราบข้อหาได้ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นการออกหมายจับทันทีไม่เป็นหมายเรียกครั้งที่ 2
ด้าน นายรังสิมันต์ บอกว่า มารับทราบข้อหาจากการออกหมายเรียกของ สน.บางขุนนนท์ จากการอภิปรายในสภาเมื่อปี 2563 เรื่องมูลนิธิป่ารอยต่อและปัญหาโรฮิงญาที่มีการพาดพิงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และพาดพิงไปถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงมีการออกหมายเรียกวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ ตนเองได้รับออกหมายเรียกวันที่ 4มีนาคม แต่ยังอยู่ในช่วงสมัยประชุมสภาไม่สามารถไปได้ จึงได้มอบหมายให้นายความให้แจ้งไปแต่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนไม่ยอมพร้อมกับขู่ว่า อาจมีการออกหมายจับตนเองก็ดูว่าจะออกหมายจับหรือไม่เพราะเชื่อว่าศาลไม่น่าจะออกหมายจับได้ เพราะเงื่อนไขที่จะออกหมายจับคดีที่ตนเองโดนเป็นคดีที่อัตราโทษต่ำ ต้องออกหมายจับ 2 ครั้งแต่กลับถูกออกหมายจับในครั้งที่ 2 เลย
ความกังวลคือการออกหมายจับลักษณะนี้เป็นการกล่าวหาว่าอาจหลบหนีหรือไม่ ซึ่งอาจมีผลในการต่อสู้ในศาลว่า มีประวัติหลบหนี ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการเป็นส.ส. จากการที่ตรวจสอบรัฐบาล ส่วนตัวไม่มีความหนักใจพร้อมที่จะสู้ตามกระบวนการยุติธรรมแต่หากเป็นแบบนี้กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยน่าจะมีปัญหาและตนเองก็จะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ตนเองที่ได้ผลกระทบแต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่เห็นต่างได้รับผลกระทบจากกระบวนการที่ทำแบบนี้
นายรังสิมันต์ ยังบอกอีกว่า เบื้องต้นวันนี้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าพบในชั้นอัยการต่อไป ส่วนตัวเชื่อว่า ไม่น่าจะใช้หลักทรัพย์อะไรในการประกันตัว ถ้าอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องก็จะสู้คดีในศาลต่อไป วันนี้จึงเดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อไม่ต้องการเปิดช่องให้ฝั่งตรงข้ามคิดว่าตนจะหลบหนี และอาจเป็นเหตุให้หลุดจากตำแหน่ง ส.ส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง