ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการและกำชับให้ตำรวจภูธรภาค 2 และเจ้าหน้าที่ในสังกัด เร่งรัด ติดตาม สืบสวน หาข่าว และดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมทั้งดำเนินการสืบสวนสอบสวน ขยายผลทำการจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดที่เป็นลักษณะเครือข่ายและผู้ที่อยู่เบื้องหลังและที่เกี่ยวข้อง โดยใช้มาตรการทางทรัพย์สินภายใต้กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม
ตำรวจภูธรภาค 2 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ฯ รรท.ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมาย พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 เป็นผู้ควบคุมและติดตามผล การปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างต่อเนื่องและเข้มงวด โดยประสานการปฏิบัติร่วมกับ นายเรืองยศ รัตนอุรดินทร์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 2 และนายเชาวลิตร ชูเลื่อน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ป.ป.ส.ภาค 2
ในส่วนของ ภ.จว.ชลบุรี ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี,พ.ต.อ.รณชัย จินดามุข รอง ผบก .ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี,พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.ภจว.ชลบุรี , ดำเนินการสามารถสืบสวนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดของ “นายเอกนิธิหรือกล้วย กอบชัยณรงค์ และ น.ส.หนึ่งฤทัยหรือมิว ภาคพูลไพร” ได้เพิ่มเติม ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ผู้ต้องหา
1. นายเอกนิธิหรือกล้วย กอบชัยณรงค์ อายุ 24 ปี ที่อยู่ 2759 ซ.พระรามที่ 2 ซอย 42 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ
2. น.ส.หนึ่งฤทัยหรือมิว ภาคพูลไพร อายุ 27 ปี ที่อยู่ 32 ซ.มาเจริญ 3 แยก 4-3 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม จ.กรุงเทพฯ
สถานที่เกิดเหตุ
-บริเวณริมถนนหน้าร้านกาแฟเอสคอฟฟี่ ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
-คอนโดเมโทปาร์ค ชั้นที่ 4 ห้องที่ 192/96 ซอยกัลปพฤกษ์แยก 2 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ จ.กรุงเทพฯ
-บริเวณริมถนนหน้าบริษัท แอคคอร์ด พรีเวลอิเล็คทริค 1999 จำกัด ริมทางรถไฟสายแม่กลอง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จ.กรุงเทพฯ
วัน เวลา ที่เกิดเหตุ
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.61 เวลาประมาณ 16.00 น.
พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาบ้า จำนวน 294,000 เม็ด
2.ไอซ์จำนวน 3,700 กรัม
3.เคตามีน จำนวน 4,100 กรัม
4.ยาอี จำนวน 4,680 เม็ด
และดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิด ตาม พ.ร.บ.มาตรการตรวจยึดทรัพย์สินฯ พ.ศ.2534 หลายรายการ ประกอบด้วย
1. รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว จำนวน 1 คัน
2. รถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็ก สีขาว จำนวน 1 คัน
3. สมุดคู่ฝากธนาคาร จำนวน 4 เล่ม
4. บัตรมาสเตอร์การ์ด และบัตรวีซ่า รวม 4 ใบ
5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
6. สร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมประมาณ 12 บาท
7. นาฬิกา จำนวน 7 เรือน
โดยกล่าวหาว่า
ผู้ต้องหาทั้งสอง ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์,ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและร่วมกันจำหน่ายโดยผิดกฎหมายฯ ,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ไอซ์,ยาอี)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 (เคตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อขาย
นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด
รวมมูลค่าของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด ประมาณ 45 ล้านบาท
พฤติการณ์ในการจับกุม
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.61 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.ภ.จว.ชลบุรี ได้ทำการขยายผลเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยสืบทราบว่านายเอกนิธิหรือกล้วย กอบชัยณรงค์ และ น.ส.หนึ่งฤทัยหรือมิว ภาคพูลไพร มีพฤติกรรมส่งยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ จังหวัดชลบุรีและกรุงเทพฯ จึงได้ขยายผลทำการล่อซื้อ ยาบ้าและไอซ์ จาก นายกล้วยฯ และน.ส.มิวฯ ต่อมาผู้ต้องหา ได้นำยาบ้าและยาไอซ์ มาส่งมอบให้สายลับ บริเวณ ริมถนนหน้าร้านกาแฟเอสคอฟฟี่ ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ จ.กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมพร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 74,000 เม็ด และเคตามีน จำนวน 1.1 กิโลกรัม และไอซ์ 1 ขีด และได้ทำการขยายผลตรวจค้นคอนโดเมโทปาร์ค ห้องที่ 192/96 ซอยกัลปพฤกษ์แยก 2 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ จ.กรุงเทพฯ ยังพบยาบ้าอีก จำนวน 1,600 เม็ด ไอซ์ 3 ขีด เคตามีน 1 ขีด และ ยาอี 400 เม็ด และได้ขยายผลไป ยังซุกซ่อนยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่งไว้ในรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นแจ๊ส สีขาว ของผู้ต้องหา ซึ่งจอดทิ้งไว้บริเวณริมถนนหน้าบริษัท แอคคอร์ด พรีเวลอิเล็คทริค 1999 จำกัด แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จ.กรุงเทพฯ ซึ่งผลการตรวจค้นภายในรถยนต์ พบยาบ้าอีกจำนวน 216,400 เม็ด ไอซ์ จำนวน 3 กิโลกรัม ยาเคจำนวน 3 กิโลกรัม และยาอี จำนวน 4,680 เม็ด ผลจากการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่าได้เป็นบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและ กรุงเทพฯ โดยผู้ต้องหาทั้งสองจะรับคำสั่งในการกระจาย ยาเสพติดจากนายจ๊ะ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อทำการจับกุมต่อไป