เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 

แจม ชรัฐฐา หรือ แจม เนโกะ จัมพ์ ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวออกมาประกาศสถานะโสด ด้วยแคปชั่นว่า “..ตอนนี้ยังโสด และอยู่ในโหมดกำลัง sale… #แต่เราเห็นแก่ตัวมากนะรับไม่ไหวหรอก” จนหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับสาวแจมและแฟนหนุ่มกิตหรือเปล่า ซึ่งทั้งคู่คบกันมานาน 7 ปี แถมมีแพลนวิวาห์ แต่เพราะสถานการณ์โควิด 19 จึงทำให้ต้องเลื่อนงานแต่งออกไปก่อน

 

 

สาวแจมพูดไว้ว่า มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกะทันหันหลายคนอาจจะตกใจ คือเหมือนแบบเราคบกันมานาน 7 ปี มันมีหลายๆ อย่างที่พอ 7 ผ่านไป มันไม่เหมือนกับปีแรกๆ ที่เรารู้จักกัน คือพอเราเริ่มรู้จักกันดีมากขึ้นมันก็เริ่มเห็นว่ามีหลายๆ อย่างที่มันไม่ตรงกัน ในหลายๆเรื่อง โดยรวมก็คือเป็นเรื่องของทัศนะคติ ในการคิดการพูดหรือการใช้ชีวิตอะไรแบบนี้ การเรียงลำดับความสำคัญการใช้ชีวิตมันไม่ตรงกันเลย

 

พี่เขาเป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว ไม่ได้กดดันหรือพยายามอะไรมากเกินไป สำหรับแจมก็คือ เขาไม่ใช่คนไม่ดีหรือเห็นแก่ตัวอะไรเลย เขามีทิศทางในการใช้ชีวิตของเขาอยู่แล้ว แต่ว่าสิ่งที่เราเพิ่งมาค้นพบเป็นจุดที่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่แนวทางของเรา และพยายามคิดและปรับที่ตัวของเราเองแล้วว่าเราจะเดินไปกับเขาได้ไหม แต่สุดท้ายแล้ว มันควรจะมีความสุขด้วยกันทั้งคู่แต่มันไม่เป็นแบบนั้น แล้วมันก็สร้างความทรมานให้กับคนสองคน แจมก็เลยรู้สึกว่าเราต้องยอมรับความจริง จะบอกว่ายื้อก็ใช้ ตัวแจมเองที่ยื้อความสัมพันธ์นี้ให้มันนาน

แล้วก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น แต่พอถึงจุดจุดหนึ่งเรารู้ว่า เราต้องยอมรับความจริงว่ามันคืออะไร คือเราเข้ากันไม่ได้ ไม่ว่าเราจะยายามมากแค่ไหน มันไปด้วยกันไม่ได้เลยถึงแม้ว่าเราจะรักกันขนาดไหน แจมก็เลยคิดว่าอยากจะยุติความสัมพันธ์นี้ลง เราต้องการให้พี่เขาได้ใช้ชีวิตในแบบที่ได้เจอคนที่สามารถไปกับเขาได้ 100% ซึ่งคนคนนั้นเรารู้ว่าไม่ใช่เรา เราไม่อยากที่จะเห็นแก่ตัว แล้วก็ยื้อความสัมพันธ์นี้ต่อไป คือเรารู้ว่าหลายๆอย่าง ในตัวเราไม่ได้เป็นแบบที่เขาต้องการได้ ซึ่งเราจะพูดแค่ว่าเรารักเขาไม่ได้ คือการที่เราจะรักใครสักคนหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเป็น อนาคตที่ต้องใช้ร่วมกันมันต้องรักโดยที่เราไม่ต้องพยายามอะไร นั่นคือความรักในอุดมคติของแจม ในเมื่อมันต้องพยายามแบบทุกๆอย่าง มันทำให้ความสัมพันธ์ค่อยๆถอยห่างออกไป ตัวเราเองยอมรับว่าช่วงหลังๆมานี้ก็คือมันเหมือนรักแบบถูกใจ เราก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้อีกต่อไป และเราต้องการให้เขารับรู้ด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถปรับอะไรได้เลยจริงๆ มันเป็นสุดทางของเขาแล้วเช่นกันเขายื่นมือมาหาเราได้แค่นี้ ส่วนตัวเราเราสามารถยื่นไปได้ แต่เรารู้ตัวว่ามันไม่ได้มาจากความสบายใจทั้งหมด มันไม่ใช่ความรักที่จะต่อยอดไปได้ไกลมากว่านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง