เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ชลน่าน” บอก “บิ๊กตู่” บริหารราชการบกพร่องร้ายแรง

วันที่ 19 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 33 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาวาระด่วน คือญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน วันแรก

เมื่อเวลา 09.43 น. นายชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจเปิดญัตติในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล รวม 11 คน จำนวน 186 รายชื่อ ขออ่านรายชื่อผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ได้แก่

1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

2.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์

3.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข

4.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

5.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย

6.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

7.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

8.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

9.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

10.นายนิพนธ์ บุญญามณี รมว.มหาดไทย

11.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตลอดระยะเวลาร่วม 8 ปีที่บริหารประเทศมาในฐานะนายกรัฐมนตรี ผิดพลาดล้มเหลว ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประเทศ ไม่สามารถสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีให้กับประชาชนได้เลย

“พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประชาชนในชาติแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในยุค พล.อ.ประยุทธ์ เป็นยุคที่การทุจริตเฟื่องฟู การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแย่สุดในอาเซียน ขาดจิตสำนึก ไร้ความเป็นผู้นำรัฐบาล ทำให้การบริหารราชการแผ่นดิน ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง มีการใช้เงินต่อรองผลประโยชน์เพื่อความอยู่รอดของตนเอง ผมเน้นนะครับ” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มีพฤติกรรมฉ้อฉล ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ รู้เห็นเป็นใจหรือปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในองค์กรหรือหน่วยงานในกำกับดูแล สร้างความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไร้คุณธรรมจริยธรรม ไร้จิตสำนึกของการเป็นนักการเมืองที่ดี มีพฤติกรรมทำลายระบบการเมืองด้วยการรู้เห็นเป็นใจ สนับสนุนการใช้เงินและผลประโยชน์เพื่อมุ่งดึง ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นเข้าสังกัดกลุ่มการเมืองของตนโดยไม่คำนึงถึงหลักการประชาธิปไตย และคุณธรรมทางการเมือง ทำให้ระบบการเมืองถอยหลังไปสู่ยุคการใช้เงินและผลประโยชน์สร้างฐานอำนาจทางการเมือง อันถือเป็นธุรกิจการเมืองที่ทำลายอุดมการณ์ประชาธิปไตย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มุ่งสร้างความมั่งคั่งในตำแหน่งหน้าที่ รู้เห็นเป็นใจหรือปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดกับประเทศ ไร้จิตสำนึกและไร้ความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดซึ่งธรรมาภิบาล บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตของหน่วยงานในกำกับดูแลอย่างกว้างขวาง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ บริหารราชการแผ่นดินโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติ มีพฤติกรรมใช้อำนาจ ในตำแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง ดำเนินนโยบายโดยไม่คำนึงถึง ความคุ้มค่าในด้านการใช้จ่ายงบประมาณ มีการใช้งบประมาณจำนวนมากโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและประโยชน์สาธารณะ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว บกพร่องอย่างร้ายแรง ปล่อยปละละเลยให้เกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทำลายระบบเศรษฐกิจและสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวางแพร่หลาย และเพิ่มจำนวนมากขึ้นโดยไม่สนใจ และขาดความรู้ความสามารถที่จะป้องกันและปราบปราม สนใจ เอาผิดแต่เฉพาะกับกลุ่มบุคคล นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง บริวาร และพวกพ้องนอกจากนี้

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ล้มเหลว ไร้ความรู้ ความสามารถในการดูแลงานด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปล่อยให้ประชาชนขาดไร้ซึ่งที่อยู่อาศัย และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์ในหน่วยงานที่กำกับดูแล เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน ไม่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมว.มหาดไทย ไร้ความรู้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ปล่อยปละละเลย รู้เห็น สนับสนุนให้มีการทุจริตและแสวงหาผลประโยชน์ภายในหน่วยงานในกำกับดูแล

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์ส่อไปทางทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ กระทำการอันเป็นการขัดกัน แห่งผลประโยชน์ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ปล่อยปะละเลยให้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากการนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ เอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายใหญ่ในการใช้ประโยชน์จากแรงงานโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

“ผลจากการบริหารราชการแผ่นดินและพฤติกรรมต่างๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีรวม 11 คน ข้างต้น ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง ประเทศชาติประสพความตกต่ำอย่างถึงที่สุดในทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ประชาชนสูญเสียโอกาสที่จะได้คุณภาพชีวิตและหลักประกันการดำรงชีพที่ดี เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เกิดภาวะ “รวยกระจุก จนกระจาย” และ “ค่าครองชีพสูง คุณภาพชีวิตต่ำ” หากปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีดังกล่าวยังคงบริหารราชการแผ่นดินต่อไป

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า นับเป็นหน้าที่ของเราในการเด็ดหัวสอยนั่งร้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถบริหารราชการในภาวะวิกฤติได้ ยี่ห้อ พล.อ.ประยุทธ์ ยังหารายได้ให้กับประชาชนในประเทศได้ เพราะทำไม่เป็น ขาดความรู้ ความสามารถ ทั้งยังเป็นผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์

“พฤติการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นการเสพติดอำนาจ และยังเป็นคนไม่สนใจไยดีในการปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งยังเอาทหารมาแก้ปัญหาโควิดแทนหมอ ทั้งนี้ ยังมีอาการเป็นโรคหลงตัวเอง ฉันเก่งสุด มีอำนาจมากที่สุด ไม่ฟังใคร ทุกคนต้องฟังฉัน ยังมีอาการโอหังคลั่งอำนาจ” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว.