ตำรวจไทยรวบแม่ค้าออนไลน์เซเลปเมืองลาว เจ้าของฉายา พิมรี่พายเมืองลาว หลังร่วมกับสามีเจ้าของแอปฯหวยดังที่คนไทยรู้จักดี โกงเงินแชร์ของชาวลาวถึง 400 ล้าน และหอบเงินหนีมากบดานในไทย
เหตุการณ์ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3 บุกไปขอตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังทราบว่า นางพอนทิบ ไซปันยา หรือ “เจ๊ทิบ” และ สามี คือ ท้าวอานุสิด พุดทะวง สัญชาติลาว ซึ่งถูกทางการลาวออกหมายจับในคดีฉ้อโกงทรัพย์ และคิดอัตราดอกเบี้ยสูง หนีมากบดานอยู่ที่นี่
แต่หลังตะโกนเรียกอยู่ 15 นาที ไม่มีใครมาเปิด ก่อนจะทราบว่าทั้งคู่หลบไปอยู่ที่โรงแรมย่านคลองห้า จึงไปตรวจสอบพบทั้งคู่อยู่ในสภาพเพิ่งตื่นนอน
สำหรับเจ๊ทิบนั้น มีฉายาว่า “พิมรี่พายเมืองลาว” จากการเป็นแม่ค้าออนไลน์คนดัง และมีหน้าตาสวย ฐานะร่ำรวย โดยมีชื่อเสียงมากขึ้นจากการทำกล่องสุ่ม โดยใส่สินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่นไอโฟนและทอง
เจ๊ทิบยังเป็นเจ้าของร้านเพชรทอง มักโพสต์ภาพวิถีชีวิตหรูหรา และคำคมต่างๆ และโพสต์เรื่องราวการทำบุญและช่วยเหลือคนยากจน ทำให้มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือและเป็นที่ไว้วางใจของชาวลาว
เจ๊ทิปยังมักเป็นข่าวว่าถูกรางวัลกับแอปพลิเคชั่นหวยลาวที่เป็นที่รู้จักของคนไทยด้วย โดยถูกครั้งละนับล้านบาทไทยต่อเนื่องเกือบทุกงวด โดยเจ๊ทิปเองก็ทำธุรกิจหวยด้วย แต่ภายหลังทราบว่า ที่แท้แอปฯดังกล่าว เป็นแอปฯที่สามีเจ๊ทิปสร้างขึ้น
ที่สำคัญเจ๊ทิปยังมีอาชีพรับฝากเงิน หรือที่จริงคือการเล่นแชร์ โดยให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 30 แต่มีเงื่อนไขว่าต้องฝากเงิน 50 ล้านกีบขึ้นไป หรือประมาณ 120,000 บาทขึ้นไป ซึ่งก็พบว่า มีชาวลาว แห่ไปเล่นแชร์กับเจ๊ทิปจำนวนมาก เฉพาะที่แจ้งความเป็นคดีมีผู้เสียหายถึง 5 พันคน รวมมูลค่าประมาณ 400 ล้านบาทไทย ก่อนที่เจ๊ทิปจะหายไปจากโซเชียลเมื่อ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา
และมีผู้เสียหายที่เริ่มรู้ตัวเพราะติดต่อเจ๊ทิปไม่ได้ทยอยเข้าแจ้งความ และพบว่าเจ๊ทิบและสามีหนีเข้าไทยทางสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 1 นครเวียงจันทน์ -หนองคาย เมื่อ 29 มิ.ย.
แต่ เจ๊ทิบ อ้างว่าไม่ได้โกงเงินใคร เป็นเรื่องเข้าใจผิด ยืนยันว่าข่าวหอบเงิน 400 ล้านบาท ข้ามประเทศไม่เป็นความจริง และไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น แต่ยอมรับว่าแชร์ล้ม
ส่วนสาเหตุที่หนีมาไทย เพราะถูกขู่ทำร้าย มีคนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงมาตั้งหลักที่ไทยก่อน และตอนนี้พร้อมชี้แจงและรับผิดชอบทุกอย่างแล้ว
ด้าน ท้าวอานุสิด ยืนยันว่าไม่ได้มีเงิน 400 ล้านบาทตามที่เป็นข่าว เพราะหากมีจริงก็คงจะหนีไปยังประเทศเขมรแล้ว ซึ่งตอนนี้มีเงินติดตัวกันอยู่เพียง 5-6 หมื่นบาทเท่านั้น โดยอยากชี้แจงว่า เงินแชร์ที่ผู้เสียหายยังไม่ได้ ภรรยาได้โอนเงินให้กับแอดมิน
ของเพจเพื่อเอาไปจ่ายให้ แต่แอดมินไม่ได้จ่าย โดยตนและภรรยาถูกแอดมินเพจ 2 คนหักหลังและโกงเงินไป ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดกับทั้งสองคนอยู่ เบื้องต้นได้เตรียมทนายไว้ต่อสู้คดีที่ประเทศลาวแล้ว เบื้องต้นตำรวจเตรียมผลักดันทั้งสองคนกลับประเทศไปดำเนินคดี
ขณะที่ข่าวที่ทั้งสองถูกจับกุมได้ ทำให้ผู้เสียหายในลาวต่างดีใจพากันโพสต์เรื่องนี้ในโซเชียลเพราะยังมีความหวังว่าจะได้เงินคืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองปราบฯ…!! รวบขบวนการเท้าแชร์แสบ หลอกเหยื่อร่วมลงทุน ก่อนเชิดเงินหนี พบความเสียหายหลายสิบล้านบาท
จับสาววัย 20 เท้าแชร์ทองออนไลน์ ลวงโลก เชิดเงินเหยื่อ 41 ล้านบาท ใช้ความผิดพลาดเป็นครู