เมียหลวง ประกาศปิดจ๊อบ! พบแล้วเมียน้อยประกาศอย่างเป็นทางการแล้วเรียบร้อย 1 คน อายุ 33 ปี ดีกรีแม่ม่ายสาว อดีตพริตตี้MC
ยกให้เป็นสุดยอดเมียหลวงแห่งปี ออกประกาศตามหาเมียน้อยให้สามี เมื่อมีหญิงรายหนึ่ง ออกมาเผยแพร่คลิปตัวเองผ่านแอปพลิเคชันติ๊กต็อกที่ใช้บัญชีชื่อว่า @natpattheema789 เป็นการประกาศเพื่อรับสมัครเมียน้อย 3 ตำแหน่งให้กับสามีของเธอ โดยที่ทุกคนจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท ที่พักฟรี กินฟรีอยู่กับตน สามีและลูกสาวแบบครอบครัว รับประกันว่าสามีตนหล่อ ไม่มีการตบตีแน่นอน แถมยังอนุญาตให้สามีไปหาเมียน้อยแต่ละคนได้ตามใจชอบ เจ้าตัวยังบอกอีกว่าตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และไม่ได้ทำคลิปเพื่ออยากดังหรือต้องการกระแส แต่เพราะตนอยากที่จะหาเมียน้อยให้สามีจริงๆ และตนก็ไม่กลัวด้วยว่าสามีจะหนีตามเมียน้อยไป เพราะรู้ว่าสามีนั้นตนรักมาก ไม่ทำแบบนั้นแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตัวละครใหม่มาแล้ว! โผล่ช่วยคดี “แตงโม” ดีกรีอธิบดี อัยการสูง?
- สุดอาลัย! “แซม ยุรนันท์” คุณแม่จากไปอย่างสงบ ดีกรีอดีตรองนางงาม?
ต่อมา วันที่ 1 ส.ค. 65 เมียหลวงมีการโพสต์คลิปประกาศเปิดตัวเมียน้อยอย่างเป็นทางการ อายุ 33 ปี ดีกรีแม่ม่ายสาว อดีตพริตตี้MC ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานของบริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง หน้าตาสวย หุ่นดี ผิวพรรณดีมาก ทางด้านของเมียหลวงยังมีการโพสต์คลิปบรรยากาศสังสรรค์ร่วมกัน 3 คนที่บ้าน เมื่อคืนที่ผ่านมาด้วย ลีลาการเต้นของเมียหลวงถือว่าไม่เบาเลยทีเดียว
และล่าสุด วันที่ 2 ส.ค. 65 นักข่าว เดินทางไปพูดคุยกับ นางสาวณัฐภัทธีมา เมียหลวง และนายปัญกร(สามี) ถึงการคัดเลือกเมียน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา บอกว่า ตอนที่เราไปถึงวันนี้ทั้งคู่ก็โชว์หวาน ทั้งจับมือกอด ผลัดกันจูบให้ดูเพื่อเป็นการยืนยันว่าทั้งคู่ยังรักกันดีแม้ว่าจะมีผู้หญิงอีกคนเข้ามาอยู่ในสถานะเมียน้อยแล้วก็ตาม
นางสาวณัฐภัทธีมา บอกว่าจริงแล้วที่ตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตนโดนอดีตสามีโกงเกือบ 30 ล้านบาท ทำให้เครียดและป่วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนเรื่องของการประกาศตามหาเมียน้อย ตอนนี้ก็ปิดรับสมัคร เพราะได้เมียน้อยที่ถูกใจทั้งตนและสามีแล้วชื่อน้องมุก อายุ 33 ปี เป็นคน จ.เพชรบูรณ์ แต่มาทำงานอยู่ กทม.
ซึ่งน้องมุกติดต่อมาในไลน์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค. 65 โดยตอนแรกเขาบอกว่าไม่ได้ต้องการจะมาสมัครเป็นเมียน้อย แค่อยากแอดไลน์มาคุยเล่น ขอเป็นเพียงแค่น้องสาวเท่านั้น จะมาเป็นเพื่อนดื่มและช่วยคัดเลือกเมียน้อยให้กับตน จากนั้นตนกับน้องมุกก็คุยเล่นกันมาเรื่อย ๆ เขาก็บอกว่าไม่ต้องการให้ตนกับสามีเลี้ยงดูหรือให้เงินเดือนทั้งนั้น แค่ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นน้องสาวก็พอ
จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาระหว่างที่ตนกำลังดื่มกับสามี น้องมุกก็ทักมาบอกว่าเลิกงานแล้ว ตนจึงชวนมาร่วมดื่มด้วยกันที่บ้าน กลายเป็นว่าทั้ง 3 คนจึงได้พบกันครั้งแรก ดื่มกันไปดื่มกันมาจนเมา ก็มีการเต้นกัน กอดกัน ตนยอมรับเลยว่ามีความสุขมาก คุยกันสนุกเหมือนรู้จักกันมาเป็นปี ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก เมื่อคืนน้องมุกเล่าให้ฟังว่าเขามีลูกติด แต่ปัจจุบันให้แม่เลี้ยงดูอยู่ และเขาไม่ขอมาทำงานที่บ้านด้วย ไว้วันว่างหรือวันหยุดค่อยแวะมาหาได้ เพราะเขามีงานที่พอใจ เงินเดือนดีทำอยู่แล้ว พร้อมกับย้ำว่าไม่เอาเงินเดือนด้วย
จากนั้นพอเมาได้ที่ก็พากันไปนอนในห้องด้วยกัน 3 คน สามีตนนอนตรงกลาง แล้วก็มีการทดลองงานกันเรียบร้อย ยอมรับว่ามีอะไรด้วยกัน 3 คนด้วย ตนก็โอเค สนุกดี พอใจเป็นอย่างมาก จึงมีการพูดคุยกันว่ารับได้ไหมที่ต้องอยู่ในสถานะเมียน้อย ซึ่งน้องมุกก็ยินดี ตนจึงวางแผนอนาคตไว้ว่าหากลูกสาวเรียนจบ มีงานทำที่มั่นคงก็จะชวนสามีและเมียน้อยไปอยู่ด้วยกัน 3 คนที่ จังหวัดนครราชสีมา เพราะตอนนี้ตนได้ซื้อที่ดินไว้แล้วในราคา 10 กว่าล้านบาท
สุดท้ายทีมข่าวได้ถามถึงกระแสในโลกออนไลน์ที่มีการตำหนิสิ่งที่ตนทำ ยอมรับว่าพออ่านคอมเมนต์แล้วก็เฉย ๆ บางคนด่าตนว่าวิปริตด้วยซ้ำ ตนไม่แคร์อยู่แล้ว ตนนั้นเลือกแคร์เฉพาะคนที่เรารัก เพราะเชื่อว่าสามารถอยู่ 3 คนได้อย่างมีความสุข
นายปัฐกร ม้ามงคล (สามี) เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่เห็นน้องมุกตัวจริงก็รู้สึกโอเคมาก นิสัยดี เป็นกันเอง เข้ากับภรรยาตนได้ แต่ตอนแรกที่นั่งดื่มด้วยกันก็ยังไม่คิดว่าจะได้เขามาเป็นเมียน้อย เพราะอย่างที่เขาคุยไลน์กับภรรยาว่าแค่อยากมาเป็นน้องสาว มาช่วยคัดเลือกเมียน้อยที่มาสมัครเฉย ๆ แต่สุดท้ายด้วยสถานการณ์เมื่อคืนมันก็ทำให้เลยจุดนั้น ซึ่งตอนที่นอนคุยกันในห้อง 3 คน ก็มีการพูดคุยข้อตกลงกันหลายอย่าง น้องมุกก็รับได้ที่จะอยู่ในสถานะเมียน้อย และตัวเองก็ไม่ติดอะไรเลย แถมยังรู้สึกดีกว่าทุกวันที่ผ่านมาด้วยซ้ำ เพราะเห็นว่าภรรยามีความสุข ซึ่งตนโฟกัสที่ความสุขของภรรยาอยู่แล้ว
อย่างหนึ่งที่ตนอยากจะบอกกับเหล่าบรรดาสามีที่อิจฉาตนว่าถ้าไม่มีเหตุจำเป็น ภรรยาไม่ป่วยซึมเศร้าแบบภรรยาของตน ก็อย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย แต่นี่ที่ตนต้องปล่อยให้เรื่องมันมาไกลถึงขนาดนี้ เพราะตนเห็นว่าภรรยารักตน อยากให้ตนมีความสุข ก็เลยยอมตามใจภรรยา ทั้งที่ภายในใจลึก ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัวเกินไปเหมือนกัน เพราะตนเชื่อว่าภรรยาปกติทั่วไป 99 เปอร์เซ็นต์ คงไม่ยอมให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน ส่วนสรรพนามที่ใช้เรียกน้องมุก ตนบอกเลยว่ายังไม่สามารถเรียกว่าเมียน้อย ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ขอให้อยู่ในสถานะคนดูใจ และยืนยันว่าขอปิดรับสมัครตรงนี้เลย เพราะแค่คนเดียวก็สงสารภรรยามากแล้ว