หรือตำรวจมีเอี่ยว หลังผู้เสียหายไปออกสื่อ แฉแก๊งพนันหมุนวงล้อ ตำรวจถึงกลับมาโทรมาด่ากลางรายการ

น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พร้อมด้วย นายบี (นามสมมุติ) สามี เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยติดตามความคืบหน้าของคดี หลังถูกแก๊งพนันหมุนวงล้อในงานแสดงสินค้า รุมทำร้ายต่อหน้าหลานชาย อายุเพียง 7 ปี จนได้รับบาดเจ็บ ตาบวมช้ำ หัวแตก คิวแตก มีบาดแผลถลอกตามร่างกายกว่า 10 แห่ง เจ็บตัวไม่พอสูญเงินอีก 28,000 บาท

นายบี กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 30 เวลา 3 ทุ่มที่ผ่านมา ตนพร้อมแฟนตั้งใจจะพาหลานชายวัย 7 ขวบ ไปเดินเที่ยวงานแสดงสินค้าในซอยวัดแป้นทอง ถ.หทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ระหว่างเดินเที่ยวงาน ได้เดินผ่านซุ้มพนันหมุนวงล้อ สังเกตเห็นมีคนยืนล้อมวงเล่นหมุนวงล้ออยู่จำนวนมาก จู่ ๆ มีกลุ่มคนที่เล่นอยู่ 2-3 คน เดินมาดึงมือตนเข้าไปยืนดูการเล่น พร้อมกับพูดชักชวนให้เล่น แต่ตนปฏิเสธ และกำลังจะเดินออก ทันใดนั้น มีหญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ทราบว่าเป็นหน้าม้าหรือไม่ พูดทำนองว่าเล่นได้เงินมาเยอะพร้อมยื่นเงินให้ 100 บาท เพื่อนำไปเสี่ยงโชคเผื่อได้ ตนเลยจะเอาเงินที่ได้มาวางเสี่ยงโชค แต่เจ้าของร้านบอกต้องวางครั้งละ 200 บาท ตนจึงควักใส่เพิ่มไปอีก 100 บาท แต่ไม่ถูกรางวัล

จากนั้น ผู้หญิงคนที่ให้เงินมาก็บอกให้ตนช่วยหมุนให้หน่อย โดยจับมือตนไปหมุนอีกแต่ก็ไม่ได้ ทางหญิงคนนั้นได้มายืนเงินตนแต่ไม่มีเงินสด และให้โอนเงินให้ตนเห็นว่ายืนอยู่ด้วยกันเลยโอนไป ทางร้านมีการชักชวนอีกหลายครั้งโดยเพิ่มเงินรางวัล เป็น 90,000 บาท เพื่อสร้างความน่าสนใจ แต่ต้องวางเงินในการหมุน 20,000 บาท ครั้งแรก ปรากฏว่าได้รางวัลแต่ทางร้านถามว่าได้วางเงินไว้หรือไม่ ตนบอกไม่ได้วางเพราะไม่มีเงินสด เขาบอกให้ไปหาเงินมาเพื่อมาแลกรางวัล 90,000 ไป

เมื่อตนหามาได้ ได้ส่งเงิน 20,000 บาท ไป ซึ่งตอนนั้นเจ้าของร้านก็ไม่ได้ส่งเงินรางวัลมาให้ กลับให้ตนหมุนอีก 1 รอบ โดยบอกให้รวมกับผู้หญิงคนที่ให้เงินตน ตอนนั้น งง ว่าทำไมจะต้องรวมกัน สุดท้ายได้รางวัลอีก 90,000 บาท แต่ทางร้านบอกเราไม่ได้วางเงิน เงินที่ให้มาเป็นค่าลงครั้งก่อน

ตนเห็นท่าไม่ดี จึงพยายามเข้าไปอธิบายว่า ตนตั้งใจพาหลานมาเที่ยวงานไม่ได้ต้องการมาเล่นการพนัน และมีปากเสียงกัน สุดท้าย แฟนได้เอ่ยถามออกไปว่า “ขอถามจริง ๆ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้คือหน้าม้าที่คอยหลอกคนใช่หรือไม่” หลังสิ้นเสียงของตน ได้มีเสียงคนตะโกน คาดว่าจะเป็นเจ้าของโต๊ะพนัน ตะโกนด่าทอตนเสียงดังลั่นด้วยคำหยาบคาย หลานตนตกใจมากถึงกับยืนตัวสั่นและร้องไห้ จู่ ๆ มีเสียงพูดขึ้นว่า “พวกมึงรู้มากนักใช่ไหม รุมมันเลย” จากนั่น ทั้งผู้ชาย และ สาวประเภทสอง ประมาณ 7-8 คน ได้เข้ามารุมทำร้ายตนทั้งคู่จนลงไปนอนกองกับพื้นได้รับบาดเจ็บ ต้องยกมือไหว้ร้องขอชีวิต จากนั้นได้มีคนที่มาเดินเที่ยวงานเข้ามาช่วยห้าม

หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.มารุต ปัณดิษฐโต พนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ ทันที แต่คดีไม่มีความคืบหน้า หลังเกิดเหตุผ่านไป 5 วัน พนักงานสอบสวน ก็ยังไม่มีการพาสอบสวนหรือชี้จุดที่เกิดเหตุ

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม เจ้าของ เพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนกับแก๊งพนันหมุนวงล้อตามงานแสดงสินค้าที่หลอกลวงประชาชนให้เข้ามาเล่น โดยมีลักษณะทำงานกันเป็นทีมเป็นขบวนการ มีหน้าม้าคอยหลอกล่อ พอเหยื่อหลงกลเข้ามาเล่นก็จะถูกกลโกง ต้องเสียเงินให้กับแก๊งนี้จนหมดตัวเกือบทุกราย โดยก่อนหน้านี้เคยมีหญิงสาวตกเป็นเหยื่อต้องสูญเงินกว่า 300,000 บาท มาแล้ว แต่ครั้งนี้เหิมเกริมมาก ถึงขั้นรุมทำร้ายเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บ ต่อหน้าประชาชนที่มาเดินเที่ยวชมงาน หลังเกิดเหตุไม่มีตำรวจท้องที่มาดูที่เกิดเหตุเลยจนงานจะเลิกแล้ว จึงต้องขอความอนุเคราะห์ท่าน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ช่วยปราบปรามแก๊งพนันกลุ่มนี้อย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องมาถูกทำร้าย หรือหลอกซ้ำอีก

จากนั้น นายเอกภพ ได้พาผู้เสียหายลงพื้นที่มาดูจุดเกิดเหตุ ที่งานวัดภายในซอยวัดแป้นทอง ถ.หทัยราษฎร์ 39 พบเป็นงานแสดงสินค้ามีร้านปาโป่ง ยิงปืน ปาเป้าเหมือนงานวัดทั่วไป ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่กลางงานมีเพียงแผงเหล็กสีแดงวางไว้ จากการสอบถามเจ้าของร้านที่นำของมาขายระบุว่า ร้านที่มาวางไม่ได้รู้จักกัน ทุกวันจะมีการหมุนเวียนคนมายื่น ที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ วันเกิดเหตุก็ไม่รู้เรื่องอะไรกันมาเห็นจงตอนชุนมุนแล้วจึงเข้าไปห้าม

ล่าสุดในรายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ช่วง “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD กด 35 ระหว่างที่ “ทิน โชคกมลกิจ” กำลังดำเนินรายการในประเด็น “ผัวเมียเที่ยวงานวัด ‘แก๊งหมุนวงล้อ’ ลวงเล่นเกม แต่จับไต๋กลโกงได้ ถูกกระทืบเจ็บ !” ซึ่งเพิ่งจบจากการสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์กับ “พ.ต.อ. นิเวชร์ งามลาภ” ผกก. สน.นิมิตรใหม่

หลังจากที่ทีมงานทราบเรื่องจากญาติผู้เสียหาย ได้ทำการตรวจสอบกับทาง ผกก. สน.นิมิตรใหม่ พบว่า มีตำรวจนายนี้อยู่จริง และให้คำมั่นว่าจะรีบดำเนินการจัดการ และมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่ถูก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง