เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กลายเป็นที่จับตามองอีกครั้ง สำหรับอดีตนักแสดงสาว จอย พัชรี พี่สาวของ กระปุก พัชรา แฟนของหนุ่ม กระทิง ขุนณรงค์ หลังมีข้อมูลออกมา จอย และสามี

นิค นิโค่ โวคูก้า อาจเป็นแกนนำระดับหัวของขบวนการ Forex-3D และเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า นิคได้หนีหมายจับในคดีดังกล่าว โดยปัจจุบัน จอย และ นิค ได้ย้ายไปใช้ชีวิตอาศัยอยู่ใน

ประเทศออสเตรเลีย และตอนนี้ทั้งคู่กำลังจะมีลูกคนที่ 2 ด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมา จอย ได้มีการเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลอัปเดตชีวิตสวยหรู สุขสบายอยู่ที่ต่างประเทศจนมีผู้ติดตาม

และเป็นแฟนคลับ เพราะความน่ารักของลูกของเธอเป็นจำนวนมาก จึงทำเอาหลายคนช็อกไปตาม ๆ กันที่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวดังกล่าวจอย พัชรี นิค นิโค่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แรงมาก! โม อมีนา แฉยับ หลังเคยถูกพิธีกรดัง ยี้! ใส่!?

อดีตพิธีกรดัง ลั่นไม่อโหสิกรรม ผัวนอกใจ รสนิยมเซ็กส์ เหม็นเขียวแต่แรก !

ล่าสุด (19 กันยายน 2565) ในโลกโซเชียลก็มีการขุดประเด็นที่ จอย พัชรี เคยให้คำตอบไว้เมื่อครั้งมีคนถามผ่านไอจีสตอรี่ถึงสาเหตุการย้ายครอบครัวไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ

ซึ่งเธอก็ชี้แจงร่ายยาวว่าเป็นเพราะเรื่องอนาคตของลูกเป็นหลัก อยากให้ลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดี

โดยจอยเผยว่า “ที่ตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่นู่นเลยเพราะคิดถึงอนาคตน้องเป็นหลัก อยากเลือกอะไรที่ดีที่สุดให้น้อง อยากให้น้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมือนน้องอยู่ที่นี่ดันเกิดมาในยุคฝุ่น

โรคระบาด และคนยิงกัน ข่าวข่มขืนเยอะพอ ๆ กับฝุ่น PM 2.5 เลยเป็นห่วงน้อง นั่งเปรียบเทียบระหว่างที่นี่กับที่นู่นหลายรอบเหมือนกัน ถ้าคิดถึงลูกเป็นหลักคงต้องไปแล้วแหละ

และรัฐบาลที่นั่นเขารักคนในประเทศเขาค่ะ แม้จะเสียค่าภาษีเยอะก็จริงแต่เขาก็ดูแลให้สมกับที่จ่าย ที่สำคัญคือเรื่องการศึกษาด้วย อยากให้ลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ ยิ่งดียิ่งแพง อินเตอร์

ก็ไม่ต้องพูดถึง ปีหนึ่งค่าเทอมครึ่งล้านหรือเป็นล้าน เราอยากให้น้องพูดภาษาอังกฤษได้เป็นชีวิตประจำวัน เพราะคิดว่าสมัยนี้ภาษาอังกฤษคือปกติแล้ว ควรต้องพูดได้ (ไม่ได้เหมือน

กับสมัยแม่ตอนเรียน คนพูดอังกฤษได้คือเก่งมาก แต่สมัยนี้คือธรรมดา เป็นสิ่งที่ควรทำได้อยู่แล้ว) เพราะมันคือภาษาสากล เลยคิดว่างั้นให้ลูกไปเรียนต่างประเทศจริง ๆ เลยมัน

จะดีกว่าไหม

ไหน ๆ ก็มีสิทธิ์จากคุณพ่อที่เป็นคนออสเตรียแล้ว เพราะไปอยู่ที่นั่นน้องก็เรียนโรงเรียนของรัฐ ไม่ต้องจ่ายค่าเรียนน้อง เซฟไปได้เยอะมาก ๆ เลยแหละ คุณพ่อเขาก็จะกลับมาเรียนต่อด้วย

เหมือนกัน ส่วนแม่ก็ต้องไปเรียนภาษาเยอรมันเพิ่มด้วย ถ้าพูดเก่งจะมาสอนน้า

แต่ไม่ใช่ประเทศไทยไม่ดีน้า พ่อกับแม่น้องรักไทยมาก ๆ พ่อนี่รักมาก ๆ ไม่อยากจะไปเลย แต่เพื่อลูก อยากให้เขาโตในที่ดี ๆ สังคมดี ๆ ไม่ต้องถูกบีบบังคับจากสังคมหรือคำเชื่อคำสอน

ต่าง ๆ ที่นี่ให้น้องได้โตเป็นตัวของตัวเองได้ดีที่สุด”