10 ปี เพิ่งเคยเจอ…!! พนักงานขับรถฉุกเฉิน เล่านาที รถยนต์แช่ขวา ไม่ยอมหลบรถพยาบาล ขณะทำคนไข้ส่งโรงพยาบาล 2 กม.
กรณี ผู้ใช้TikTok บัญชี @paopao007pp โพสต์คลิปวิดีโอที่คนขับรถพยาบาลบันทึกภาพไว้ระหว่างกำลังเร่งนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ปรากฏว่ามีรถยนต์SUVคันหนึ่งขับอยู่ข้างหน้าคาอยู่ในช่องทางขวาสุดไม่ยอมหลีกทางให้ แม้จะส่งเสียงสัญญาณขอทางให้ทราบแล้ว แต่รถยนต์ดังกล่าวยังคงนิ่งเฉยและขับไปตามทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนสุดท้ายรถพยาบาลต้องยอมเบี่ยงออกซ้ายแล้วเร่งเครื่องแซงไปเอง
โดยผู้โพสต์บรรยายข้อความด้วยว่า “รถพยาบาลนำส่งผู้ป่วยชาย 1 ราย มีอาการอ่อนแรงซีกขวาและมีอาการซึมลง เราจึงทำการนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ถึงมือหมออย่างทันท่วงทีและปลอดภัย #tiktok #ขึ้นฟีดเถอะ #ดุดันไม่เกรงใจใคร” หลังโพสต์ดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไปมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก โดยเกือบทั้งหมดตำหนิพฤติกรรมการขับขี่ของรถยนต์ SUV คันดังกล่าว
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
-ภารกิจค้นหากำลังพลที่สูญหายจากเหตุ เรือหลวงสุโขทัยอับปาง พบอีก 6 ราย
-ลูกค้าอึ้ง เมื่อสั่งก๊วยเตี๋ยวเส้นมาม่าแบบไม่ลวกเส้น ทางร้านก็จัดให้ตามคำขอเป๊ะ
จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ใช้บัญชี TikTok รายดังกล่าว คือ นายกิตติพันธ์ หมื่นจันทร์ อายุ 29 ปี พนักงานการแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ตามคลิปเกิดขึ้นเมื่อช่วงสายวันที่ 23 ธ.ค.65 ระหว่างรถพยาบาลกำลังนำตัวผู้ป่วยที่มีอาการร่างกายซีกขวาอ่อนแรงส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์เป็นการด่วน
ระหว่างขับไปตามเส้นทางถนนวงแหวนรอบกลางเชียงใหม่มุ่งหน้าศูนย์ราชการ พบรถยนต์คันดังกล่าวขับขวางทางอยู่ข้างหน้า แม้จะส่งสัญญาณให้ทราบแล้ว แต่ยังขวางทางอยู่เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรแล้ว ทำให้ในที่สุดคนขับรถจึงตัดสินใจเบี่ยงซ้ายเร่งแซงนำตัวผู้ป่วยส่งถึงโรงพยาบาลได้อย่างทันเวลาและปลอดภัย
สำหรับการนำคลิปดังกล่าวออกเผยแพร่นั้น นายกิตติพันธ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะประจานคนขับรถยนต์ SUV คันดังกล่าวแต่อย่างใด โดยเจตนารมณ์ที่นำคลิปดังกล่าวออกเผยแพร่ก็เพื่อตั้งใจให้เป็นอุทาหรณ์ว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นไม่สมควรกระทำ รวมทั้งอยากฝากถึงคนขับรถยนต์ SUV คันดังกล่าวว่าอย่าทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกเป็นอันขาด เพราะเหมือนเอาชีวิตและความเป็นความตายของผู้ป่วยมาล้อเล่น ซึ่งตัวเองทำงานนี้มาเกือบ 10 ปี เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก และกรณีนี้ถือว่าโชคดีที่ผู้ป่วยได้รับการส่งตัวถึงโรงพยาบาลทันเวลาและได้รับการรักษาจนอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว