วันที่14 พฤษภาคม 61เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี รายงาน ที่บ้านดงยวด หมู่9 ตำบลนาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้มีการจัดงานบุญบั้งไฟ ประจำปี เมื่อวานนี้ ในช่วงเย็น ได้มีพลเมืองดี เอาโทรศัพท์มือทำการบันทึกคลิปวีดีโอ ในขณะมีวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน โดยเป็นผู้หญิง 2 คน ได้ดึงผมตบตีกัน บริเวณถนนกลางหมู่บ้าน แล้วได้มีผู้ชายสวมเสื้อยืดสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมหมวกแก๊ป วิ่งปรี่เข้ามาพร้อมมีดทำครัว ทำการแทงหญิงสาวที่ใส่เสื้อกล้ามสีดำบริเวณซี่โครง1 ครั้ง ในขณะที่กำลังตบตีกันกับหญิงสาวเสื้อยืดสีชมพูใส่ผ้ากันเปื้อน จากนั้นชายมือมีดได้วิ่งหลบหนีไป
หลังจากนั้นหญิงสวมเสื้อยืดสีดำ ผู้ถูกแทงนองหงายท้องนอนแน่นิ่ง ทราบชื่อต่อม่คือ น.ส. สุพัตรา อุ้ยหา อายุ19ปี อยู่บ้านเลขที่137 หมู่6 ตำบลนาข่า ชาวบ้าน จึงแจ้งตำรวจ แล้วให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ได้เดินทางมารับผู้บาดเจ็บส่ง โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา เนื่องจากถูกแทงเข้าที่บริเวณซี่โครงด้านซ้ายทะลุปอด
ต่อมาพ.ต.ท. แดนชัย มูลป้อม สารวัตรสอบสวน สภ.นาข่า พร้อมตำรวจ ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ ได้ทำการตรวจที่เกิดเหตุ และสอบพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ จนทราบตัวมือถือแทง คือนายมงคล เสวตวงษ์ อายุ25ปี อยู่บ้านเลขที่213 หมู่9 ตำบลนาข่า เป็นพ่อค้าส้มตำรถเข็น ซึ่งได้มาขายส้มตำกับภรรยา ในงานบุญบั้งไฟ พอเห็นภรรยาของตนเอง ตีกันกับหญิงสาวอายุ19ปี กำลังเสียเปรียบ จึงได้เอามีดปลายแหลมที่ใช้สับมะละกอ วิ่งเข้ามาจ้วงแทง หญิงสาว19ปี 1 ครั้ง ทำให้ล้มลงแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งหลังก่อเหตุพ่อค้าส้มตำ ก็ได้หลบหนีไป
พ.ต.ท. แดนชัย มูลป้อม เปิดเผยว่า หลังจากขบวนบั้งไฟ แห่รอบหมู่บ้านเสร็จ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเขม่นกัน ซึ่งผู้ตายอาจจะเคยเป็นคู่อริกับภรรยาพ่อค้าส้มตำ กันมาก่อน พอมาเจอกัน จึงได้มีปากเสียง แล้วลงมือดึงผม แล้วตีกัน ทำให้พ่อส้มตำคือ นายมงคล เสวตวงษ์ เห็น ภรรยาของตนเอง เสียเปรียบ จะถูกทำร้ายเอา จึงได้ไปคว้ามีด สับมะละกอ ที่อยู่บนรถเข็น เข้ามาจ้วงแทง ดังกล่าว
จากนั้นในวันนี้เวลา09.00 น. ญาติได้พาตัว นายมงคล เสวตวงษ์ มามอบตัวกับตำรวจ ที่ สภ.เมืองอุดรธานี จึงติดต่อให้ตำรวจ สภ.นาข่า มารับตัว ก่อนพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ใช้เวลาไม่นาน เพราะต้องรีบทำ เนื่องจากกลัวว่า ญาติของผู้ตาย ทราบข่าว จะมารุมประชาทัณฑ์ โดยแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา แล้วนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูลภาพจาค:สำนักข่าว ทีนิวส์ จ.อุดรธานี