เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เกิดเหตุระทึก คนร้าย ใช้ปืนอาก้า บุกปล้นร้านทองในห้างบิ๊กซีระยอง กวาดทองไปหนักกว่า 500 บาท แถมโกยเงินสดไปอีก 2 แสน

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ร.ต.อ.กวีวุฒิ บุญเรือง ร้อยเวร สภ.เมือง จ.ระยอง รับแจ้งเกิดเหตุคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนอาก้าปล้นร้านทองเยาราชกรุงเทพ สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาระยอง ริม ถ.สาย 36 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ได้ทองรูปพรรณและเงินสดก่อนจะขึ้นรถยนต์ สีบรอนซ์ทองทะเบียนป้ายแดง ขับหนีออกไปจากหน้าห้าง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และ ตำรวจสายสืบ สกัดตามเส้นทางที่คาดว่ารถคนร้ายจะมุ่งหน้าไป พร้อมกำลังรุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ที่เกิดเหตุพบเป็นร้านทองอยู่ติดกับประตูทางออก พบพนักงานสาว 2 รายของร้านทอง กำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนก และช่วยกันเก็บทองส่วนที่เหลือเข้าตู้เซฟ เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีทรัพย์สินเสียหาย โดยคนร้ายได้ทองรูปพรรณไปไม่ต่ำกว่า 500 บาท และเงินสดอีก 2.3 แสนบาท จากนั้นจึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของร้าน พบว่าคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม 1 คน สวมหมวกไหมพรมใส่หมวกสีขาว ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทา กางเกงยีนขายาว รองเท้าผ้าใบ ถือปืนอาก้ายืนคุมเชิงอยู่ ส่วนอีกคนสวมหมวกไหมพรมสีดำ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้ากางยีนขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว กระโดดข้ามเข้าไปในเคานท์เตอร์ แล้วกวาดเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ไป 5 ถาด ในหนึ่งถาดมีทั้งหมด 100 เส้น และ สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์ ไปอีก 4 ถาด หนึ่งถาดประมาณ 70-80 เส้น รวมน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 500 บาท แล้วยังบังคับให้เปิดลิ้นชักเอาเงินสดไปอีก 230,000 บาท ก่อนจะหลบหนีออกมาหน้าห้าง แล้วรีบกระโดดขึ้นรถยนต์มาสด้า ทรีบิวท์ สีบรอนซ์ ทะเบียนป้ายแดง ขับหลบหนีออกไปบนถนนสาย 36 มุ่งหน้าไปทางสี่แยกทับมา

จากการสอบถาม น.ส.เต็ม (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้เห็นเหตุการณที่นั่งอยู่ร้านกาแฟตรงข้ามร้านทอง ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นชายสองคน รูปร่างอ้วนกับผอม โดยคนอ้วนถืออาวุธปืนอาก้า เข้ามาที่หน้าร้านทอง พร้อมทั้งตะโกนลั่นว่าอย่ายุ่งพร้อมทั้งเล็งปืนมาทางตน แล้ววิ่งเข้าไปในร้านชักปืนขู่พนักงานสาวในร้านทอง ก่อนจะใช้เวลาปฏิบัติการณ์เพียง 3 นาที ได้สร้อยคอทองคำใส่ถุงไปพร้อมเงินสด จังหวะมีเงินตกหล่นอยู่หน้าร้าน คนร้ายยังใจเย็นก้มลงหยิบเงินแล้ววิ่งไปขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยตนพยามตามไปแต่ไม่ทัน ขณะที่ น.ส.วาสนา ศรีสมดี อายุ 31 ปี พนักงานร้านทอง ให้การว่า คนร้ายสองคนปฏิบัติอย่างรวดเร็ว และยังใช้ปืนข่มขู่ จนต้องนำเงินจากลิ้นชักให้ไปอีก 230,000 บาท ส่วนทองที่ได้ไป จากจำนวนถาดและน้ำหนัก ประมาณได้ไม่ต่ำกว่า 500 บาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดตามเส้นทางทั่วเมือง เพื่อตามล่าตัวคนร้าย ซึ่งยังไม่ทราบเบาะแส คาดยังคงกบดานในพื้นที่ ส่วนคนร้ายน่าจะเป็นมืออาชีพดูจากอาวุธปืนที่ใช้เป็นปืนอาก้า เป็นอาวุธสงคราม และ การก่อเหตุใช้เวลาน้อยมาก รับเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจที่น่าจะมีการวางแผนมาก่อน เพราะเลือกจังหวะลงมือในเวลาที่ห้างใกล้ปิด คนน้อย ประกอบกับร้านอยู่ติดกับประตูทางเข้าออก คนร้ายจึงจอดรถหน้าประตู แล้วขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาพล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเรียกประชุมตำรวจในพื้นที่ เพื่อวางแผนในการตามล่าตัวสอบคนร้ายต่อไป