เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้เสียหายร้องเรียนถูกหลอกลงทุน จากเจ้าของแฟรนไชส์ “ย่างให้” ที่ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยกลุ่มผู้เสียหาย ร้องกับ “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของแฟรนไชล์”ย่างให้” ที่มีสาขา กว่า 400 แห่ง ฉ้อโกงฯ หลอกให้ลงทุน แต่ ไม่จ่ายปันผลและถอนหุ้นไม่ได้ รวมทั้งอ้างว่ามีบริษัทน้ำดื่มยี่ห้อดังร่วมลงทุน พร้อมเดินสายออกรายการทีวีและสื่อฯจำนวนมาก เพื่อทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ

นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ได้พากลุ่มผู้เสียหายมาร้องทุกกล่าวโทษนายมณฑล ทองคำ เจ้าของแบรนด์ “ย่างให้ ” ซึ่งมีพฤติการณ์คือเดินสายออกสื่อหลายรายการ ทั้งทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ต่างๆ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าธุรกิจประสบความสำเร็จ มีการเปิดสาขามากกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ

รวมถึงมีการนำภาพศิลปิน ดารา นักแสดงชื่อดังหลายคนมาโพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก สร้างความน่าเชื่อถือว่ามีคนดังชื่อชอบในแบรนด์ของตัวเองและมาร่วมลงทุนในธุรกิจจำนวนมาก ธุรกิจได้ทำจริง ประสบความสำเร็จจริง หวังให้คนหลงเชื่อและเข้ามาลงทุนในแบรนด์ด้วย ทำให้กลุ่มผู้เสียหายเชื่อใจและนำเงินมาร่วมลงทุน แต่กลับไม่ได้เงินปันผล ไม่มีการแบ่งผลกำไร และไม่พบการดำเนินกิจการต่างๆ ตามที่ได้คุยกันไว้ และเมื่อผู้เสียหายมีการสอบถาม กลับถูกลบออกจากกรุ๊ปไลน์

นอกจากนี้ หลังจากที่ผู้เสียหายได้ลงทุนไป ก็ได้มีการตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ธุรกิจมีการจดทะเบียนจริง แต่เจ้าของแบรนด์ไม่ได้มีการจดชื่อผู้เสียหายบางรายเข้าไปในรายชื่อผู้ถือหุ้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ อีกทั้งปัจจุบันเจ้าของแบรนด์ได้ปิดเฟซบุ๊กส่วนตัว และปิดเพจธุรกิจไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้

เบื้องต้นจากการรวบรวมกลุ่มผู้เสียหาย ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 13 คน ที่หลงเชื่อคำโฆษณานี้และเข้าร่วมลงทุน ยอดความเสียหายเบื้องต้นกว่า 4 ล้านบาท เฉลี่ยรายละตั้งแต่ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท และคาดว่าอาจจะมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

ด้านนายต๋อง หนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่เสียเงินมากที่สุด 1 ล้านบาท เล่าให้ฟังว่า เจ้าของแบรนด์หลอกว่ามีหุ้นอยู่ 20 ตัว ตัวละ 2 แสนบาท ตนจึงได้ร่วมลงทุนไป 5 ตัว เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท โดยเจ้าของแบรนด์ได้มีการกล่าวอ้างว่าลงทุนแค่ 7,000 บาทก็สามารถปลดหนี้ 10 ล้านบาทได้ภายใน 6 เดือน และคืนทุนได้ภายใน 1 เดือน

แต่เมื่อเวลาผ่านไป 6 เดือนก็ยังไม่ได้รับเงินใดๆ โดยเจ้าของธุรกิจอ้างว่าติดช่วง โควิด-19 จึงไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ จึงรอไปเรื่อยๆ และยังมีการเชิญชวนให้ลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทลูกอีก โดยอ้างว่ามีบริษัทน้ำดื่มยักษ์ใหญ่รายหนึ่งเข้ามาร่วมลงทุนด้วย จึงจะได้เงินปันผล แต่หลังจากตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและสืบทราบว่า พบว่าเจ้าของแบรนด์ได้มีการเปิดบริษัทที่สองและนำไปขายให้กับบริษัทดังต่อ เพื่อให้เป็นการรับช่วงทำแบรนด์ต่อจากนายมณฑล ไม่ใช่การทำแบรนด์บริษัทลูกอย่างที่บอกกับผู้เสียหาย และหลังจากผ่านไป 2 ปีก็ยังไม่ได้รับเงินปันผลแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งยังมีปัญหากับภรรยาจนถึงขั้นเลิกรากันไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่ค้าออนไลน์คนดัง โกงเงินแชร์ของชาวลาวถึง 400 ล้าน โดนตำรวจรวบแล้ว

เปิดประวัติ พิธีกรชื่อดังโกงเงินกว่าร้อยล้าน เคยเป็นพิธีกรรายการนี้ แฟนๆช็อค !!