สลด ร่างทรงหญิงวัย 66 ปี เอาแก้วลงไปล้างข้างโอ่งน้ำ พลาดลื่นล้มแก้วบาดคอดับคาตำหนักปู่ฤาษี น้องสาวเล่านาทีพบศพ

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สามโคก รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตบริเวณบ้านต.บางโพธิ์เหนือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงรีบรุดไปในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์เวรนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม ที่เกิดเหตุ เป็นตำหนักปู่ฤาษียารอด (ปู่แก่) อยู่ในซอยลึกและแคบรถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ ในที่เกิดเหตุพบร่างหญิงสูงอายุ สวมผ้าถุงและยกทรงนอนจมกองเลือดอยู่ที่ชั้นล่างของตำหนัก มีแผลขนาดใหญ่ที่คอด้านซ้ายตัดเส้นเลือดใหญ่ ใกล้กันมีเศษแก้วแตก หมอนและผ้าเปื้อนเลือดวางอยู่ อีกทั้งยังมีแก้วหลายใบวางอยู่ข้างโอ่งน้ำใกล้ผู้ตาย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังคือ น.ส.ศศิมล อายุ 66 ปี อาชีพร่างทรง

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

-จวกยับ ภาพยนตร์ไทย “Hunger คนหิว เกมกระหาย” ไม่ให้เกียรติอาชีพเชฟ

-รอบใหม่ นครนายก “ไฟป่า” ปะทุ เขาตะแบก หวั่นลามถึงเขาใหญ่

 

จากการสอบถาม นางวรกมล อายุ 63 ปี น้องสาวผู้ตาย กล่าวว่า ตอนเจอพี่สาวข้างล่างเขานอนลงไปแล้ว แต่ตอนที่ลงไปเราไม่รู้ ไม่เห็น พอลงไปแล้วเห็นเลือดไหล เลยเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยนำร่างขึ้น พอช้อนตัวผู้ตายขึ้นมาถึงจะเห็นแก้ว วางอยู่ที่กองเลือด เห็นแผลที่คอแต่ไม่รู้ว่าลึกหรือไม่ จึงรีบเอาผ้าอุด ยิ่งจับนอนราบเลือดยิ่งทะลักออก ต้องเอาหมอนมาหนุน คิดว่าเขาคงลงไปล้างแก้ว แต่ผู้ตายเดินไม่ค่อยถนัด ต้องถัดลงไป แล้วแต่ความถนัดของเขา อาจจะล้ม เพราะผู้ตายเดินไม่ค่อยไหว

ด้าน ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สามโคก มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วมอบร่างให้มูลนิธิร่วมกตัญญูส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ก่อนให้ญาตินำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป แต่เนื่องจากในซอยนำรถยนต์เข้ามาไม่ได้ เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจึงต้องแบกศพออกมายังรถที่จอดอยู่ด้านนอก