เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่าโจ๋วัย 17 ยิงทิ้งนำศพมาโยนทิ้งคลองในพื้นที่ จ.ตรัง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง สนธิกำลัง ตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง นำกำลังไปรวบตัว นายวิชาญ หนูสีคง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 ม.4 ต.วังใหญ่ อ.เทพ จ.สงขลา อดีตทหารผ่านศึกและทำธุรกิจรับซื้อน้ำยางสด พ่อของ น้องแนน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แฟนสาวผู้ตาย ขณะอยู่ภายในบ้านพัก ก่อนควบคุมตัวมาเค้นสอบสวนที่ สภ.เมืองตรัง

หลังจากการสืบสวนสอบสวนและสอบปากคำพยานเชื่อมโยงไปถึงตัวว่าเป็นคนลงมืออุ้มฆ่าโหด นายนเรนทร์ฤทธิ์ สุวรรณโณ หรือน้องบาส อายุ 17 ปี เหตุเกิดบนสะพานบ้านลำแพะ-คลองลำภูรา เขตรอยต่อระหว่าง ม.1 บ้านน้ำผุด อ.เมืองตรัง กับ ม.2 บ้านลำแพะ ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด ห่างจากกำแพงหลังวัดน้ำผุดเหนือประมาณ 200 เมตร เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ก.ย.60 ที่ผ่านมา คดีนี้เป็นเหตุสะเทือนขวัญและเป็นที่สนใจของประชาชนต่างประณามถึงความโหดเหี้ยมของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ

ทีมสอบสวนนำโดย พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.โอภาส ไชยบุญ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และทีมพนักงานสอบสวน ได้เค้นสอบปากคำ นายวิชาญ ผู้ต้องหาตลอดทั้งคืน ท่ามกลางสีหน้าอาการตึงเครียด และอยู่ในสภาพอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ก่อนยอมปริปากให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่านายนเรนทร์ฤทธิ์ สุวรรณโณ หรือน้องบาส อายุ 17 ปี จริง และลงมือเพียงคนเดียว เนื่องจากเกิดบันดาลโทสะ หลังจากกลับมาจากทำธุระนอกบ้านกับภรรยามาเจอผู้ตายอยู่ในบ้าน และได้ปลุกปล้ำทำร้ายผลักลูกสาวจนมีร่องรอยเขียวช้ำตามร่างกาย ซึ่งเคยเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกันเข้าไปในห้อง โดยวางแผนทำทีแกล้งมาเอาครีมทาหน้า

นายวิชาญ ให้การต่อไปว่า เมื่อเห็นภาพบาดตาตนจึงลากตัวมากระทืบโดยใช้หมอนรองจนผู้ตายหมดสติ จากนั้นจึงได้ใช้เชือกมัดร่างใส่ท้ายรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 3678 สงขลา ตั้งใจพาไปทิ้งทะเลในพื้นที่ จ.สงขลา และไม่สบโอกาส จึงขับรถพามายังพื้นที่เขตรอยต่อพัทลุง-ตรัง พามาทิ้งเหวบริเวณบนเขาพับผ้า แต่เป็นจังหวะที่รถขับผ่านมา

“จากนั้นจึงขับรถต่อมายังพื้นที่ จ.ตรัง ตรงจุดเกิดเหตุหลังวัดน้ำผุดเหนือ เนื่องจากยังจำพื้นที่ได้สมัยตนเป็นทหารเกณฑ์ค่ายเสนาณรงค์ ร.5 พัน 1 (ค่ายคอหงส์) ขณะนั้นมาช่วยเหลือน้ำท่วมเมื่อหลายปีมาแล้ว ก่อนยกร่างผู้ตายลงจากรถแล้วชักปืนจ่อยิงซ้ำอีก 1 นัด บนสะพาน ก่อนลากศพโยนทิ้งคลองพร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุด้วย ทั้งนี้ขอความเป็นธรรมด้วย ลูกและภรรยาไม่เกี่ยวข้องด้วย ขณะนี้ลูกสาวต้องหมดอนาคต ไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องพาหลบหนีไปอยู่บ้านญาติ เนื่องจากโดนข่มขู่จะทำร้ายเพื่อแก้แค้น และภรรยาเครียดจนล้มป่วยกะทันหันเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล”

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตร.ได้ควบคุมตัวนายวิชาญ ผู้ต้องหาเข้าห้องขังและได้สั่งกำชับสิบเวรเฝ้าดูแลภายในห้องขังอย่างเข้มงวด เกรงว่าผู้ต้องหาจะมีความเครียดคิดทำร้ายตัวเอง ทั้งนี้ในชั้นพนักงานสอบสวนได้สั่งคัดค้านการประกันตัว และจะนำไปฝากขังในชั้นศาลในช่วงเช้า 4 ต.ค.วันนี้ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อว่า นายวิชาญ ผู้ต้องหาจะลงมือทำเพียงคนเดียว ส่วนกรณีที่ญาติผู้ตายเชื่อว่ามีนายตำรวจใหญ่พัวพัน และมีตำรวจในพื้นที่ จ.ตรัง นายหนึ่งร่วมทีมอุ้มฆ่า และพยายามกดดันไม่เผาศพผู้ตายนั้น กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงไปถึงผู้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งข่าวความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ที่มา – ไทยรัฐ