รัฐบาลใหม่เตรียมผลักดันกระตุ้นท่องเที่ยว ด้วยมาตรการ ฟรีวีซ่าจีน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศได้ประกาศถึงแผนฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนว่า จะทดลองทำเป็นการชั่วคราวในช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ โดยได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นชอบในหลักการ และพร้อมผลักดันให้เกิดขึ้นได้ โดยจะให้ความสำคัญในช่วงต้นไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวมากกว่าทุกช่วงของปี สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยจำนวนมากในภาคการท่องเที่ยว ดังนั้นจึงตั้งเป้าที่จะเริ่มแผนฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน 1 ตุลาคมที่จะถึงนี้

ทำให้ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้ทางภาคท่องเที่ยวจำนวนมาก และยังเป็นจุดหมายอันดับหนึ่งในใจของนักท่องเที่ยวชาวจีนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต่างพากันมีความหวังว่าแผนฟรีวีซ่าชาวจีนจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เคยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่สร้างรายได้ให้จังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทยกลับมาโดยเร็วที่สุด และยืนยันว่าภาคการท่องเที่ยวและจังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาในช่วงไฮซีซั่นนี้อย่างแน่นอน

นายสีหเดช เจียเจษฎา รองประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย (ภาคเหนือ) กล่าวว่า การที่ประเทศไทยมีแผนฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้ขั้นตอนที่ชาวจีนจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยง่ายขึ้นกว่าเดิม และต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงมีความสำคัญกับจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทยอยู่

ซึ่งหากถามตนว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเท่ากับช่วงปีปกติที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เมื่อไหร่ คงต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมามากน้อยเพียงใด เพราะจีนเองก็มีปัญหาทางเศรษฐกิจอยู่ อาจจะยังต้องการให้คนของประเทศตนเที่ยวในประเทศก่อน

อย่างไรก็ตามเชื่อได้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ แต่จะมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การสื่อสารเรื่องฟรีวีซ่าจีนส่งไปถึงชาวจีนในแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นการบ้านที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องทำอย่างเร็วที่สุด หากหวังจะให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยว รวมถึงเรื่องความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทย ถึงแม้ว่าหลายครั้งอาจจะเป็นข่าวปลอม แต่รัฐบาลไทยก็ต้องไปพูดคุยกับรัฐบาลจีนว่าข่าวที่ออกมาไม่ได้เป็นความจริง และในขณะเดียวกันภายในประเทศต้องพัฒนาเรื่องของความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกไปพร้อมกัน