เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เรียกว่าอาทิตย์หน้านี้ก็จะเป็นบทสรุปแล้ว สำหรับคดีสุดสะเทือน คดีน้องชมพู่ ที่เป็นข่าวดังเมื่อปี 2563 โดย น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ได้หายตัวออกไปจากบ้าน เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2563 ก่อนจะถูกพบเป็นศพ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 พ.ค. 2563 บริเวณภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีสภาพศพไม่สวมเสื้อผ้า

ซึ่งคดีดังกล่าวได้สร้างความความตกใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก มาพร้อมกับคำถามว่า เด็กอายุเพียง 3 ขวบ จะขึ้นไปทำไม ไปได้อย่างไร มันเป็นไปได้หรือไม่ จนนำมาสู่การปักใจเชื่อว่า นี่คือ คดีฆาตกรรม ทิ้งศพเพื่ออำพรางคดี

โดยหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้ต้องสงสัยและพยานแวดล้อมมาสอบปากคำทั้งหมด จนมาถึงคิวของ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงของน้องชมพู่ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนที่หนึ่งในคดีนี้ โดยพบพิรุธหลายประเด็น ทั้งให้การไม่ตรงกัน สับสน วกวน ในหลาย ๆ เรื่อง การไม่ไปร่วมงานศพ และอีกมากมาย แต่ลุงพลก็ปฏิเสธเสียงแข็งมาตลอด ว่า “ไม่ได้เป็นคนฆ่าล้านเปอร์เซ็นต์” นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตไปยังพ่อแม่ของน้องชมพู่แทน

และเมื่อไม่สามารถหาคนผิดในคดีนี้ได้ เรื่องราวนี้ก็ยิ่งเข้มข้นและกลายเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และลุงพลก็กลายเป็นบุคคลที่มีคดีความติดตัวกว่าหลายคดี ดังนี้

คดีที่ 1 คือ คดีทำร้ายร่างกาย โดยผู้สื่อข่าวช่องดังถูกลุงพลโผเข้าหา ก่อนทุบหลัง 2 ครั้ง พร้อมกับผลักไหล่ จากนั้นก็พยายามจะบีบคอ และกระชากหน้ากากอนามัยออก จนทำให้กลุ่มยูทูบเบอร์ที่ติดตามไลฟ์สดต้องมาดึงลุงพลออกไป หลังเกิดเหตุมีการแจ้งความดำเนินคดีกับลุงพลในข้อหาทำร้ายร่างกาย

ต่อมา ศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาว่า ลุงพล จำเลย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 309 วรรคแรก, 391 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษในความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตาม ป.อ.มาตรา 90 จำคุก 2 เดือน ปรับ 10,000 บาท

จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 5,000 บาท พิเคราะห์ผลการชันสูตรบาดแผลผู้เสียหายแล้ว ไม่ปรากฏอันตรายร้ายแรง และจำเลยได้ลุแก่โทษโดยนำเงินค่าเสียหายมาวางศาล จึงให้โอกาสแก่จำเลยโดยรอการลงโทษจำคุก มีกำหนด 1 ปี

คดีที่ 2 คือ คดีตัดไม้ สร้างวังพญานาค เจ้าหน้าที่ป่าไม้มุกดาหาร เข้าแจ้งข้อกล่าวหาลุงพล พร้อมยูทูบเบอร์ 2 คน ในข้อหาตัดไม้ในเขตป่าสงวนดงภูพาน โดยมีหลักฐานเป็นคลิปยูทูบเบอร์กำลังตัดต้นกระถินป่า 4 ต้น ตรงจุดสร้างพญานาค และปรับพื้นที่ หลังจากมีคลิปการตัดไม้ของลุงพล พร้อมกับมียูทูบเบอร์เป็นคนช่วยตัดช่วยลากต้นไม้ถูกเผยแพร่ออกมา

คดีที่ 3 คือ คดีครอบครองไม้หวงห้าม โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดมุกดาหาร ได้เข้าตรวจสอบท่อนไม้ที่ระบุว่าเป็น “ตะเคียนทอง” ตั้งเป็นศาลเจ้าแม่โสรภี ข้างบ้านของลุงพล ต่อมาผลตรวจสอบพบว่าเป็น “มะค่าแต้” ไม่ใช่ ตะเคียนทอง ซึ่ง มะค่าแต้ เป็นไม้หวงห้าม หากครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ตามมาตรา 69 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท

ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์สั่งฟ้อง ลุงพล ฐานความผิด ทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, รับไว้ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้

และ ศาลชั้นต้นพิพากษาลุงพล คดีครอบครองไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก 4 เดือน ปรับเงิน 6,666 บาท ริบไม้ของกลาง โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี

คดีที่ 4 คดีน้องชมพู่ โดยมีรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน จ.มุกดาหาร ได้เก็บวัตถุพยานหลายอย่าง สำคัญสุดคือ เส้นผมของน้องชมพู่ที่ถูกหั่นจำนวนหลายเส้น วัตถุพยานดังกล่าวกลายเป็นหลักฐานสำคัญในทันทีที่เจออยู่ในรถของนายไชย์พล และเส้นผมของคนใกล้ชิดไปตกอยู่ในที่เกิดเหตุพบศพ

ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ 3 ข้อหาหนัก คือ 1.พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร 2.ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และ 3.กระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ ลุงพล ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีน้องชมพู่ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.66 ฝ่ายโจทก์ และฝ่ายจำเลยในคดี เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อนัดสืบพยานวันสุดท้าย หลังเริ่มสืบพยานมาตั้งแต่ 30 มิ.ย.65 ซึ่งกระบวนการของศาลได้มีการนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 31 ต.ค.2566 เวลา 10.00 น.

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

หากมีปัญหา นอนเท่าไรก็ไม่พอ อ่อนเพลียทั้งวัน อ้วน มีน้ำในท้องเยอะ ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของไขมันพอกตับ
ขอเแนะนำอาหารเสริมบำรุงตับฮอกเก๊ตไธโอน ที่ประกอบด้วยสมุนไพรหลักคือ ฮอกเก๊ตนามูจากเกาหลี ช่วยบำรุงตับ อายุ35ปีขึ้นไป ต้องทานวันละ1เม็ด เพื่อล้างสารพิษในตับ เพราะตับรับสารพิษทุกวัน โดยเฉพาะสายดื่ม

กดลิ้งค์รับข้อมูล อาหารเสริมบำรุงตับ เพิ่มเติ่มได้ที่ Link ด้านล่าง

https://www.tvpoolreward.com/salepageheokkaetioneoffice/contactpage

ขอแนะนำ
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นสูงสุด
โฟมล้างหน้า24พลัส หรือโฟมลดสิว มาสต์ทิ้งไว้30วิ
แล้วล้างออก เติมเซรั่ม24พลัส ลบรอยเหี่ยวย่น
หลังจากนั้นทาครีมกันแดด24พลัส ที่กันแดดและPM2.5 บำรุงและป้องกันการเกิดสิว

กดลิ้งค์รับข้อมูล โฟมเซรั่ม และครีมกันแดดและเซรั่มเข็มข้นเพิ่มเติ่มได้ที่ Link ด้านล่าง

https://24plusthailand.com/