ตำรวจ สน.ดอนเมือง บุกสำนักเณรแอร์ หาหลักฐานในคดีล่วงละเมิดหญิง

จากการตรวจสอบพบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ 150 ตารางวา มีส่วนห้องทำพิธี วางแท่นบูชาเทวรูป ฤาษี เศียรพ่อแก่ กุมารทอง กุมารี หัวกะโหลก และขี้ผึ้งมหาเสน่ห์อยู่เต็มห้องหลายพันชิ้น ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอน โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอนำน้ำมันว่านมหาเสน่ห์ ไปส่งตรวจว่ามีสารอันตรายใดหรือไม่ ซึ่งเณรแอได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

โดยเณรแอ จอมขมังเวทย์ กล่าวว่า รู้จักหญิงสาวผู้เสียหายจริงเมื่อปี 2564 เริ่มจากมาขอถอนของ 3 ครั้ง หลังถูกสามีทิ้ง มีใบหย่ามายืนยัน ก่อนจะเริ่มพูดคุยชอบพอคบหากันฉันสามีภรรยา มีการร่วมหลับนอน ส่งเสียเลี้ยงดู และเช่าบ้าน 2 หลังให้อยู่ โดยหลังล่าสุดเช่าเดือนละ 5,000 บาทนานหลายปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฝ่ายหญิงก็มาขอเงินตลอด และได้โอนเงินไปให้หลายครั้ง รวมเกือบ 1 ล้านบาท ตนเองมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน ใบเสร็จค่าเช่าบ้าน และแชทการสนทนาทั้งหมด แต่ช่วงหลังฝ่ายหญิงได้มาข่มขู่จะเอาเงิน อ้างว่าท้อง แต่ตนเองได้ไปตรวจกับโรงพยาบาลแล้ว ยืนยันว่าเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้ จึงรู้ว่าฝ่ายหญิงโกหกและมีชายอื่น จึงได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ฝ่ายหญิงยังเรียกร้องเงิน 2 แสนบาท แต่ตนเองไม่ยอมจ่ายแล้ว เพราะมองว่าฝ่ายหญิงพฤติกรรมไม่ดี จึงเป็นที่มาที่ฝ่ายหญิงไปร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งตนเองมองว่าฝ่ายหญิงอาจมีปัญหาทางจิต

ส่วนที่เมื่อวานนี้ตนเองปฏิเสธว่าไม่รู้จักหญิงคนดังกล่าว โดยว่าจำไม่ได้ เนื่องจากตอนแรกฝ่ายหญิงปิดบังใบหน้า ตนเองจึงจำไม่ได้ เพราะมีลูกศิษย์จำนวนมากเข้ามาหาตนเอง แต่เมื่อตนเองเห็นแชทสนทนาที่หลุดออกมา จึงรู้ได้ว่าเป็นอดีตภรรยารายนี้ เพราะส่งเสียลูกศิษย์สาวลักษณะนี้เพียงคนเดียว คบหาจากความรักและสงสาร ไม่ใช่การถอนของเพื่อมีเพศสัมพันธ์ใดๆ ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่ อยากเจอ อยากพูดคุยและถามว่าทำไปเพราะเหตุใด

ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอเข้าตรวจสอบตามความสมัครใจของเณรแอ ที่ต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลังถูกกล่าวหา ซึ่งก็ได้เก็บหลักฐานบางส่วนไว้ตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนี้จะออกหมายเรียกมาให้ปากคำเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด เพื่อรับฟังข้อเท็จจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นความสมัครใจหรือล่อลวงบังคับข่มเหง ซึ่งตำรวจยังไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาเณรแอแต่อย่างใด