วันนี้ในรายการโหนกระแส ที่มีการพูดคุยกรณีดรามาแฟรนไชส์ ลูกชิ้นของเชฟชื่อดัง “เชฟอ้อย” ที่ขายแฟรนไชส์ แล้วเกิดปัญหา ส่งเครื่องล่าช้า ทุนจม ขายไม่ได้กำไร กลุ่มแฟรนไชส์ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ส่วนเชฟอ้อยออกมาโต้ และขู่ว่าจะมีการดำเนินคดีกับคนที่ทำให้เกิดความเสียหาย

คุณเล้ง คนที่ซื้อแฟรนไชส์ บอกว่าเห็นคลิปของเชฟอ้อยไวรัลใน TikTok เห็นว่าเป็นกระแสมากๆ ก็เลยตัดสินใจโอนเงินซื้อแฟรนไชส์มาในราคา 2.5 แสนบาท โดยข้อตกลงจะระบุว่า จะได้สูตรลูกชิ้น ได้สูตรน้ำจิ้ม ทุกตัวที่จะออกใหม่ เชฟอ้อยจะอยู่หน้าร้านให้ 2 วัน จะได้โลโก้ของเชฟไปใช้ มีการสอน ให้มาเรียนกี่คนก็ได้ และมีคอร์สสอนการตลาด การคำนวณต้นทุน ได้เครื่องปั่นผลิตลูกชิ้น ได้เครื่องบดสับ อย่างละ 1 เครื่อง

คุณเล้งบอกว่า ตนซื้อแฟรนไชส์วันที่ 9 กรกฎาคม แล้วไปเรียนทันทีในวันนั้นเลย ตอนนั้นได้รับแจ้งว่า จะต้องรอเครื่อง อีก 7-14 วัน ได้เครื่องปั้นลูกชิ้น 1 นาที 300 ลูก ในวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดขาย ส่วนเครื่องบดสับตนไม่ได้รับ ได้เลทเกือบๆ 2 เดือน ซึ่งทางเจ้าของแบรนด์ไม่ได้แจ้งเรา จนมาทราบว่ามีคนซื้อแฟรนไชส์ได้ของเลทเหมือนกัน จนมีคนไปโวยกับเชฟ ค่อยมีการโพสต์ทางเพจในวันที่ 2 กันยายน ว่าเครื่องจะล่าช้า

วันที่ไปขายวันแรก ลูกค้ามาต่อแถวเยอะมาก แต่ตนไม่มีเครื่องบด จำเป็นต้องรับลูกชิ้นของเชฟอ้อยมาขายก่อน ได้มากิโลละ 100 บาท แต่ตอนที่ได้มา ไม่ได้มาเป็นลูกๆ ได้มาเป็นหมูบด ต้องเอามาเข้าเครื่องปั้นเองอีก จนลูกค้าที่ต่อแถวเริ่มโวยวายแล้ว สำหรับตน ไม่สำคัญว่าใครจะขายได้มากได้น้อย ได้กำไรเท่าไหร่ แต่ถ้าเจ้าของแบรนด์ไม่ทำตามสัญญา

คุณแมน หนึ่งในคนที่ซื้อแฟรนไชส์ของเชฟอ้อย ไปเปิดที่ จ.สุราษฎร์ธานี บอกว่า อยากได้แบรนด์ของเชฟอ้อยมาก มองว่าเขาเป็นไอดอลของเรา เป็นคนเก่งที่ปั้นแบรนด์ติดตลาดได้ขนาดนี้ ตกลงจ่ายค่าแฟรนไชส์ 2 งวด งวดละ 125,000 บาท ตอนที่โทรคุยกัน เชฟบอกว่าจะลงมาดู มาสอนให้ที่สุราษฎร์ แต่ถึงเวลาเขาไม่มา เขาบอกว่าไม่ว่าง เขาบอกเราว่า มึงจะรีบอะไรนักหนา ถ้ารีบมาก กูจะส่งตั๋วเครื่องบินให้ มึงขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพเลย ซึ่งเชฟเขาก็ออกค่าตั๋วเครื่องบินให้จริงๆ

ตอนที่ตนบินมาเรียนที่ กทม. เขาให้เราจ่ายอีกงวดให้ครบก่อน แล้วบอกว่าเครื่องจะล่าช้าอีกเดือนหนึ่ง เขาบอกให้ซื้อลูกชิ้นเขาไปต้มขายก่อน เราลุยการตลาดในสุราษฎร์ไว้หมดแล้ว แต่มันยังไม่ได้เครื่อง เราขอเครื่องปั้นมาก่อนได้ไหม ถามราคาเนื้อบดของเชฟราคา 100 บาท เราคำนวนแล้ว ถ้าเอาทุนราคานี้มาไปขาย ไม่ได้กำไรเลยสักบาท เราก็เลยบอกว่ายังไงเราก็ไม่ซื้อเนื้อหมูบดแน่นอน เชฟก็บอกว่า ถ้าอยากได้เครื่องนักก็จะส่งให้ หลังจากนั้นไม่ต้องโทรมาถามอะไรอีก

พอเราได้เครื่องมาแล้ว เราก็ขาย แล้วปรากฎว่ามีคนในสุราฎร์เขารับหิ้ว คือรับออเดอร์จากลูกค้า แล้วมาสั่งลูกชิ้นจากร้านของคุณแมน มีป้ายเขียนว่า รับหิ้วลูกชิ้นเชฟอ้อย มีโลโก้ร้าน และโทรติดต่อ ปรากฎว่ามีคนเอาไปฟ้องเชฟอ้อย จนเชฟโทรมาด่า ขู่จะฟ้อง ว่าตนเอาโลโก้ไปให้คนอื่นใช้ ทำผิดสัญญา ทั้งที่จริงๆ เราไม่ได้ให้คนอื่นใช้ คนที่เขารับหิ้วเขาก็จ่ายเงินเรา

สุดท้ายคุณแมนบอกว่าไม่อยากมีปัญหา ตัดสินใจไม่ขายลูกชิ้นเชฟอ้อยออีก หลังจากไปเปิดหน้าร้านในห้างมา 3 ครั้ง แล้วหันมาทำลูกชิ้นแบรนด์ของตัวเองแทน ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ลอกสูตร ไม่ได้เอาสูตรเชฟอ้อยมาทำขาย เอาหลักฐานไปดูได้เลยว่า ตนไปสั่งโรงงานผลิตทุกอย่าง ขอบอกว่าลูกชิ้นของตนอร่อยน้อยกว่าของเชฟอ้อยเล็กน้อย แต่ก็ทำเพราะไม่อยากมีปัญหา ไม่อยากฟ้องร้อง ไม่อยากทะเลาะกับใคร

ส่วนคุณเดียร์ ซื้อแฟรนไชส์ไปขายที่อุบลราชธานี ได้เครื่องล่าช้า จะไม่ทันขายอยู่แล้ว เราเคยส่งรูปเครื่องไปถามเขาว่า เราหาเครื่องเล็กได้แบบนี้ ไซส์ 4 กก. แต่เขาบอกว่าใช้ไม่ได้ ไม่ได้มาตรฐานเขา แต่สุดท้ายพอเราเร่งเขามากๆ เขาก็ส่งเครื่องเล็กแบบเดียวกันมาให้ เหมือนที่เราส่งไปถามเขาทุกประการ

เรายังไม่ทันได้เปิดขายเอง เชฟอ้อยมากับคาราวานรายการดัง มาขายออกบูทที่ห้างดังอุบล ทั้งที่ร้านเรายังไม่ได้ขายเลย แต่เราก็ยังใจดีสู้เสือ พยายามจะขายที่อื่นในวันที่เขามา บอกว่าถ้ารอต่อคิวนานให้มาซื้อจากเราก็ได้ เราพยายามจะไปขอถ่ายรูปกับเขา เอารูปมาโชว์ว่าเราเป็นแฟรนไชส์จริงๆ แต่เรายังติดต่อเขาไม่ได้เลย

เชฟอ้อย พูดในมุมของตัวเอง ยอมรับว่าไปด่า ไปพูดรุนแรงกับคู่กรณีต่างๆ จริง แต่สิ่งที่เราไม่พอใจ คือมีคนเอารูปหน้าเรา โลโก้เราไปวางพ่วงกับลูกชิ้น 5 บาท มันไม่ได้ แล้วมีคนไปทำก๋วยเตี๋ยวขาย ไปทำลูกชิ้นขาย โดยการเอาสูตรของเราไปดัดแปลง มันผิดสัญญากับเชฟหรือไม่แบบนี้ ถ้าเขาอยากจะขายลูกชิ้นเอง จะมาซื้อแฟรนไชส์เราทำไม ทำไมไม่ทำเองตั้งแต่แรก แบบนี้เจตนามันเป็นอย่างไร

ขณะที่คุณเล้ง ซึ่งขายลูกชิ้นเฮียเล้ง บอกว่า ตนทำสูตรของตัวเอง ใช้ชื่อแบรนด์ของตัวเอง ไม่ได้เอาสูตรเชฟอ้อยมาใช้ เอาอะไรมาพิสูจน์ว่าตนลอก หรือดัดแปลงสูตรของเชฟ

ขณะที่คุณแมนก็บอกว่า ก๋วยเตี๋ยวใครๆ เขาก็ขายกัน แล้วเชฟโทรมาด่า ไลน์มาด่าตน เชฟมีสิทธิ์อะไรมาด่าเรา

ส่วนเรื่องที่ส่งเครื่องล่าช้า เชฟอ้อยยืนยันว่า ต้นทางต่างประเทศผู้ผลิตเครื่องมันล่าช้า เขาเลื่อนเชฟมา เชฟก็เลยต้องไปเลื่อนแฟรนไชส์ เวลาสั่งเครื่อง ถ้าคนซื้อแฟรนไชส์จ่ายเงินเรามาครึ่งหนึ่ง เชฟอ้อยจะสั่งเครื่องทันที ก่อนหน้านี้มันมีกรณีคนซื้อแฟรนไชส์ จ่ายเงินมาครึ่งหนึ่ง เราสั่งเครื่องไปแล้ว สุดท้ายมาบอกว่าไม่พร้อมขาย ไม่มาเรียน แล้วเครื่องที่เราสั่งไปจะทำอย่างไร ยืนยันว่า เรื่องความล่าช้ามันไม่ได้เกิดจากเรา มันเกิดจากต้นทาง

เชฟปู นิมมาน ศรีเมฆานนท์ คนที่ร่วมพัฒนาสูตรลูกชิ้น สูตรลูกชิ้น ร่วมกับเชฟอ้อยมาตั้งแต่เริ่ม เป็นเพื่อนสนิทกับเชฟอ้อยมา มาร่วมในรายการวันนี้ เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่มีเพจในออนไลน์ไปบอกว่าเชฟอ้อยฉ้อโกง ต้องมาเคลียร์ให้ชัดว่าฉ้อโกงจริงไหม เพราะสิ่งที่ผู้เสียหายทุกคนพูดมา มันเป็นเรื่องของการผิดสัญญา ไม่ใช่ฉ้อโกง อยากให้ทุกคนมาเคลียร์ในประเด็นนี้

สุดท้าย ทนายไพศาล ช่วยเป็นคนกลาง ช่วยเคลียร์ว่า ต่อให้เรื่องทั้งหมดนี้ไม่มีสัญญาเป็นเอกสาร ก็ฟ้องได้ เพราะการซื้อขายเกิน 2 หมื่นบาท มีการส่งมอบสินค้า ตรงนี้เป็นการทำธุรกรรมแล้ว มันเข้าแพ่งหมด ฟ้องได้หมด

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ สูตรของเชฟมันไม่ได้มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง มันเป็นความลับทางการค้าเท่านั้น เรื่องนี้ถ้าคุณเล้งไปทำขายในแบรนด์ของเขาเอง เชฟอ้อยจะไปว่าอะไรไม่ได้ ยกเว้นไปนำสืบว่า เขายังอาศัยชื่อเชฟ โลโก้ของเชฟในการขายถึงจะผิด ส่วนเรื่องการส่งมอบเครื่องล่าช้า เรื่องเชฟไปขายตัดหน้าทั้งที่ตัวเขายังไม่ได้เริ่มขาย อันนี้ถือว่ามันเป็นเรื่องของสัญญาไม่เป็นธรรม

สิ่งที่อยากจะเตือนเชฟอ้อย เรื่องทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องผิดสัญญาอะไรต่างๆ แต่ถ้าเราสื่อสารกันด้วยน้ำใสไมตรี ถ้าพูดคุยกันดีๆ มันจะไม่เป็นแบบนี้ ปัญหาที่เกิดมันมาจากแฟรนไชส์ไม่ได้มาตรฐาน โตไวไปจนเชฟไม่พร้อม ทำให้ปัญหาต่างๆ มันเกิดขึ้นมา ส่วนเรื่องการจะไปฟ้องอะไรใคร ต้องแยกให้ออกว่าใครเป็นคนหมิ่นประมาทเชฟ เพราะบรรดาผู้เสียหายที่เขาออกมาเปิดข้อเท็จจริง เขาทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันนี้ก็ควรมองเขาเป็นผู้เสียหาย ส่วนใครที่หมิ่นประมาท ด่าเสียๆ หายๆ ก็ค่อยว่ากันไป

สุดท้ายเชฟอ้อย บอกว่า ใครกรณีที่ใครอยากจะคืนแฟรนไชส์ จะคืนไม่ได้ แต่สามารถช่วยขายต่อให้คนอื่นมาซื้อสิทธิ์ต่อได้ ซึ่งเรื่องนี้เชฟอ้อยจะจัดการช่วยหาคนมาซื้อต่อให้ ส่วนอะไรที่เชฟพูดไม่ดี ก็ต้องขอโทษคู่กรณีด้วย ซึ่งทางคุณแมนยอมรับคำขอโทษ และก็ได้ขอโทษเชฟอ้อยที่ตนก็พูดจากก้าวร้าวด้วย