เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 10 มี.ค.2567 น.ส.จิตรทิวา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี อดีตพนักงานแบงก์ที่ผันตัวมาเป็นแม่ค้าออนไลน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมแม่คือ น.ส.นาตยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 82 ปี ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ไทรน้อย เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นางเจี๊ยบ ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ซึ่งพี่สาวของนางดวงกมล (ขอสงวนนามสกุล) ลูกหนี้ที่กู้ยืมเงินจากตนไปและขาดส่งทั้งดอกเบี้ยกับเงินต้น

น.ส.จิตรทิวา กล่าวต่อว่า ได้ใช้สายยางฉีดน้ำแบบแรงดันสูงฉีดใส่ตนกับแม่ พร้อมกับด่าทอดูหมิ่นตนกับแม่ ระหว่างที่ตนเข็นรถวีลแชร์ไปกับแม่เพื่อไปทวงเงินกู้ยืมที่นางดวงกมลยืมไป จนเกิดมีปากเสียงโต้เถียงก่อนที่นางเจี๊ยบพี่สาวของนางดวงกมลจะใช้ใช้ยางฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่จนตนกับแม่เปียกปอนไปหมด

น.ส.จิตรทิวา กล่าวอีกว่า และน้ำที่ใช้ฉีดไม่ใช่น้ำเปล่า ทำให้แม่ของตนซึ่งถูกน้ำดังกล่าวเข้าตาจนเกิดอาการอักเสบ หลังเกิดเหตุจึงรีบพาแม่ส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดที่หน้าร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง ต.ไทรน้อย อ ไทรน้อย จ.นนทบุรี เมื่อช่วงเวลา 18.30 น.ของวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา

น.ส.จิตรทิวา กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เข็นรถพาแม่ไปหานางดวงกมลลูกหนี้ เพื่อจะชวนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ไปนัดไกล่เกลี่ยหนี้สินที่นางดวงกมลติดค้างตนอยู่ แต่นางดวงกมลปฏิเสธไม่ไปไกล่เกลี่ยกับตน โดยอ้างว่าเรื่องนี้ตนได้ไปฟ้องศาลแล้ว

น.ส.จิตรทิวา กล่าวว่า แต่ตนก็ยืนยันว่าเรื่องนี้ยังไม่เคยฟ้องศาล แต่อาจจะเป็นบริษัทที่ไปติดตามทวงหนี้ให้กับตน จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ก่อนพี่สาวของนางดวงกมลที่ยืนอยู่ด้วย ได้ด่าทอตนกล่าวหาตนว่าเป็นดาวน์ซินโดรม ได้ใช้น้ำแรงดันสูงฉีดใส่ตนที่กำลังยืนโต้เถียงกันอยู่

น.ส.จิตรทิวา กล่าวต่อว่า ส่วนแม่ของตนนั่งอยู่ในรถเข็นหน้าร้านก็ถูกฉีดน้ำใส่เช่นกันจนเปียกปอนไปหมด ซึ่งน้ำที่นางเจี๊ยบนำมาฉีดใส่ตนกับแม่นั้น น่าจะน้ำผสมสารอะไรสักอย่าง เพราะทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาตามมา

เจ้าหนี้ กล่าวอีกว่า หลังตนกับแม่ไปแจ้งความแล้ว ทางเจ้าที่ตำรวจส่งตัวตนกับแม่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยหมอได้ล้างตาให้ทั้งสองคนและให้ยามากิน ซึ่งเหตุการณ์ที่ตนถูกสาดน้ำใส่แบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ตนเพิ่งถูกสาดน้ำใส่มาแล้ว 1 ครั้ง

น.ส.จิตรทิวา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนยังไม่เคยทวงเงินนางดวงกมลเป็นกิจจะลักษณะมาก่อน มีแต่แค่ส่งแชทไป แต่ก็ถูกนางดวงกมลปฏิเสธว่าไม่มีเงินใช้คืน อยากได้ก็ให้ไปฟ้องศาลแทนเอา ซึ่งนางดวงกมลได้มากู้ยืมเงินตนไปเมื่อปี 66 ครั้งละ 50,000 บาท จำนวน 2 ครั้ง โดยอ้างว่าจะไปปล่อยกู้ทำนา และสามีเขาทำงานธนาคารหากได้โบนัสมาก็จะคืนเงินให้ ซึ่งตนไม่รู้ว่าจริงหรือไม่

น.ส.จิตรทิวา กล่าวด้วยว่า แต่พอผ่านไป 1 เดือนเขาโอนมาให้ 30,000 บาท พร้อมกับดอกเบี้ยอีก 5,000 บาท ซึ่งถ้าไม่นับดอกเท่ากับว่าตนยังขาดต้นอยู่อีก 15,000 บาท ถ้าคิดดอกก็เท่ากับตนยังขาดเงินต้นอยู่อีก 20,000 บาท

ซึ่งนางดวงกมลอ้างว่า เขาไม่ได้เอาเงินไปปล่อยกู้ แค่เอาเงินไปใช้ส่วนตัว และเงินที่ยืมไปจะคืนให้แน่นอน และนางดวงกมลยังเอาตนไปพูดจาว่าร้ายว่าตนเป็นคนไม่ดีอย่าไปคบ ตนแค่อยากได้เงินที่กู้ยืมและยังค้างยอดอยู่ 63,000 บาท และไม่สมควรที่จะใช้น้ำแรงดันสูงมาฉีดน้ำไล่ตน

ด้าน น.ส.นาตยา ซึ่งถูกฉีดน้ำใส่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ไปหาเขาไม่ได้ว่าอะไรเขาเลย แต่ถูกน้ำฉีดใส่จนตาอับเสบ ลูกสาวตนจึงพาตนไปหาหมอเพื่อล้างตาและหมอก็ให้ยากลับมากิน

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านเสริมสวย นางดวงกมล ลูกหนี้คู่กรณี กล่าวว่า ตนเริ่มรู้จักกับ น.ส.จิตรทิวา เมื่อ 2 ปีที่แล้วในฐานะที่เขาเป็นลูกค้าร้านทำผม ต่อมาเขาได้มายืนหน้าร้านตนพูดว่า หาคนกู้ให้หน่อยเขาจะปล่อยกู้ 30,000 บาท แต่ตนบอกไปว่า 30,000 บาทกู้ไปก็ไม่พอ เพราะถ้าจะปล่อยกู้ต้องปล่อยให้ตน 50,000 บาท

นางดวงกมล กล่าวต่อว่า จากนั้นเขาก็โอนเงินให้ตอนนั้นเลย 30,000 บาทและโอนเพิ่มมาอีก 20,000 บาท โดยน.ส.จิตรทิวาได้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อเดือน แรก ๆ ใหม่ ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดตนก็ส่งเขาบ้างไม่ส่งบ้าง และมีลูกค้าที่กู้ยืมต่อไปหนีหนี้ด้วย ตนก็ต้องรับผิดชอบแทน

นางดวงกมล กล่าวอีกว่า จนบางครั้งตนต้องมาหายืมเงินไปจ่ายแทนลูกหนี้ที่หนี ซึ่งทางเขาก็มาตกลงใหม่ให้ตนจ่ายให้เขาสัปดาห์ละ 1,000 บาท อาทิตย์แรกตนก็จ่ายไป 1,000 บาท อาทิตย์ที่ 2 เขาทักมาว่ากรุณาโอนเงินให้เขาด้วย พร้อมกับพิมพ์ข้อความมาด่าตน ตนเลยหยุดส่งเงินให้เขาเลย และก็อัดคลิปเขาเอาไว้ทุกครั้งที่โทรคุยกัน

นางดวงกมล กล่าวว่า โดยก่อนหน้านี้ตนเคยถูกทางทนายความโทรศัพท์มาหาทวงถามว่าตนจะจ่ายเงินให้ น.ส.จิตรทิวาได้ยังไงบ้าง เหมือนเขาไปจ้างบริษัททนายให้มาเร่งรัดหนี้สินกับตน ซึ่งนอกจาก น.ส.จิตรทิวาจะไปแจ้งความกับตำรวจ และไปร้องศูนย์ดำรงธรรม

จนทำให้ทางศูนย์ดำรงธรรมไลน์มาหาตนว่าถ้าว่างก็เชิญเข้ามาพบหน่อย แต่ยังไม่ได้เข้าไป เพราะตนยังติดธุระเลื่อนนัดเรื่องที่ตนถูกรถชนจนขาหักที่จ.พระนครศรีอยุธยาไม่เสร็จ เพราะศาลได้นัดให้ไปไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีในวันที่ 8 มี.ค.67

จึงเกิดการโต้เถียงกันกับ น.ส.จิตรทิว เจ้าหนี้ แต่ในจังหวะที่โต้เถียงกันอยู่นั้น พี่สาวตนซึ่งถือสายยางฉีดน้ำอยู่เป็นคนฉีดน้ำใส่คู่กรณี หลังเกิดเหตุแล้วพี่สาวตนได้เดินทางกลับบ้านไปแล้ว เพราะเขามาอาศัยอยู่เป็นเพื่อนในช่วงที่ตนขาหักเท่านั้น ไม่ได้อยู่อาศัยที่นี่ และตนได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ น.ส.จิตรเทวา ในข้อหาบุกรุกด้วยเช่นกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

กรมอุตุฯเตือน พายุฤดูร้อนถล่มวันพรุ่งนี้ ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง

ดาว OnlyFans ประกาศปีนี้ขอทำลายสถิติ มีเซ็กซ์กับชายไม่ซ้ำหน้า 365 คน