ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ให้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการกระทำความผิดของแก๊งทุนจีนสีเทาที่เข้ามาอาศัยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการกระทำผิดกฎหมาย เป็น “ปัญหาระดับชาติ” นั้น
.
โดยเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 สืบนครบาบ ร่วมกันจับกุมตัว นายธนิตพงศ์ หรือเก๋ อายุ 48 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ที่ 171/2567 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถคอนโดหรู ย่านรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
.
พฤติการณ์ทางคดีกล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้แจ้งพักอาศัยอยู่ที่บ้านในกรุงเทพมหานคร ผู้แจ้งได้รับคำแนะนำจากเพื่อนชายชื่อแพทริค ชาวไทย ว่าสามารถทำพาสปอร์ตสัญชาติไทยได้โดยติดต่อกับนายธนิตพงศ์ (ผู้ถูกจับ) ซึ่งติดต่อกันโดยมีนายแพทริคเป็นคนกลางในการประสานงาน ต่อมาได้เก็บค่าดำเนินการ เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท เป็นค่ามัดจำในการทำพาสปอร์ต ผู้แจ้งจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชี TENGYONG เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 เวลา 14.29 น. ต่อมานายธนิตพงศ์ฯ ได้แจ้งว่าถ้าอยากดำเนินการเร็วขึ้นต้องเพิ่มเงิน ผู้แจ้งจึงได้โอนเงินไปยัง บัญชีธนาคารชื่อบัญชี TENGYONG เป็นจำนวนเงิน 1,300,000 บาท เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 00.37 น. รวมเป็นจำนวนเงิน 1,900,000 บาท ต่อมานายแพทริคฯ แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อกับนายธนิตพงศ์ฯ ได้ จึงเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวง ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป

.
หลังถูกจับกุม ผู้ต้องหารับว่า ก่อนช่วงโควิดตนรับทำหนังสือเดินทางและเปลี่ยนสัญชาติให้กับต่างชาติที่อยากได้สัญชาติไทย สามารถทำให้กับต่างชาติที่ร้องเพลงชาติไม่ได้ เขียนภาษาไทยไม่ได้ ไม่มีคู่สมรสเป็นคนไทย ให้สามารถได้สัญชาติไทยได้ โดยจะเก็บค่าดำเนินการจำนวน 2.5 ล้านต่อคน ต่อมารัฐบาลไทยได้ปราบปรามคนจีนสีเทาที่มีสัญชาติไทย จึงทำให้ตนไม่สามารถดำเนินการแบบเดิมได้ ประกอบกับตนถูกฟ้องล้มละลาย จึงออกอุบายให้กับกลุ่มคนที่สนใจและเชื่อว่าตนยังทำแบบเดิมได้อยู่ เก็บเงินมาใช้จ่าย เมื่อถึงกำหนด ตนไม่สามารถดำเนินการได้จึงถูกผู้เสียหายแจ้งดำเนินคดี หลังจากถูกจับกุมตนจึงรู้ว่าบิดาของตนถูกออกหมายจับด้วย จึงขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เพราะเอาบัญชีธนาคารของบิดามาใช้ บิดาตนไม่รู้เรื่องแต่อย่างใดสาเหตุที่เอาบัญชีมาใช้เนื่องจากตนถูกฟ้องล้มละลาย กลัวถูกยึดเงินที่ฉ้อโกงไป
.
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีทุกรูปแบบและพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีสติ อย่าหลงเชื่อการหลอกลวงจากมิจฉาชีพในการขอสัญชาติไทย โดยทางกรมการปกครอง ได้มีประกาศว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขอสัญชาติไทยและการตรวจคุณสมบัติของผู้ขอมีสัญชาติไทย ดังนั้นการขอสัญชาติไทยจะต้อง ถือปฏิบัติตามประกาศกรมการปกครอง ขอให้ผู้มีความประสงค์ขอสัญชาติไทยได้พิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ อย่าได้หลงเชื่อมิจฉาชีพ ผู้แสวงหาผลประโยชน์ จนเป็นเหตุให้สูญเสียซึ่งทรัพย์สินใดๆ
ข่าวที่น่าสนใจ