เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ทนายเดชา” ลั่นงานนี้มีดาราติดคุกแน่ “อี้ แทนคุณ” เผยผู้เสียหายตอนนี้มี 500 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้าน พร้อมแฉพฤติกรรมดาราคนดัง 3 กลุ่ม

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ทนายเดชา เดชา กิตติวิทยานันท์ พร้อมด้วย ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง และอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ พาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบบางส่วนจากการลงทุนกับบริษัทชื่อดัง ดิไอคอน กว่า 10 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)

 

 

คุณอี้ ระบุว่า พฤติการณ์ของบริษัทนี้ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนและโฆษณาเกินจริง เกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์ เมื่อมีผู้หลงเชื่อจะชักชวนให้ร่วมลงทุน เปิดคอร์สราคา 97 บาท ก่อนขยับเป็นขั้นบันได ไปจนถึง 250,000 บาท เพื่อเป็นดีลเลอร์ และสามารถสร้างทีม และรับผลประโยชน์เพิ่ม และหลังจากนั้นจะมีการโน้มน้าว เชิญชวนให้ยิงแอดโฆษณาหารายได้ เฉลี่ยแล้ว 1 คน จะเสียหายอย่างน้อย 5 แสนกว่าบาท ข้อมูลล่าสุดมีผู้เสียหายที่มาร้องทนายเดชาแล้วมากกว่า 500 คน วันนี้มีตัวแทนมา 10 คน ส่วนผู้เสียหายรายอื่นสามารถเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่บ้านตนเองได้เลย ส่วนกรณีการนำผู้มีชื่อเสียงมาร่วมงานจากการสอบถามผู้เสียหาย พบว่าดาราที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้มี 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้ได้รับมอบอำนาจในการบริหารโดยตรงมี 5-6 คน กลุ่มสองเป็นกลุ่มพรีเซนเตอร์ที่บริษัทจ้างมา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีจำนวนหลายคน และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่มีความสัมพันธ์ และถูกเชิญเข้าไปร่วมอีเวนต์ของบริษัท โดยผู้เสียหายยืนยันว่าดารากลุ่มแรกเข้ามาบริหารจริง

 

 

ด้าน ทนายเดชา เปิดเผยว่า จาการที่เมื่อแซม ยุรนันท์ แถลงข่าวว่าไม่มีส่วนในการตัดสินใจของบริษัท ตนเองได้พูดคุยกับพนักงานสอบสวนแล้วว่า การจะดำเนินคดีกับใครไม่ได้ดูแค่เพียงคำพูด แต่ต้องดูพฤติกรรมและหลักฐานที่รวบรวมมา ซึ่งดิจิทัลฟุตปริ้นจะเป็นตัวพิสูจน์ คดีนี้หากดูจากพฤติการณ์ มีโอกาสสูงที่ดาราจะถูกดำเนินคดีแน่ๆ แต่ยังไม่ขอระบุว่าเป็นใคร คดีนี้ใครจะฟ้องกลับผมยินดีให้ฟ้อง ถ้าบริสุทธิ์จริงก็ตั้งโต๊ะแถลงตอบคำถามลูกค้าให้กระจ่าง ฝากไปถึงแม่ข่าย ขอให้เข้ามาเป็นพยานและแจ้งความทันที หากไม่มาก็จะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดซึ่งถือเป็นผู้ต้องหาแน่นอน

 

หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตนตัดสินใจร่วมลงทุนเพราะอยากจะประสบความสำเร็จเนื่องจากมีการชักชวนและกล่าวอ้างถึงผู้ที่ประสบความสำเร็จ โดยมีวลีหลักของตัวเจ้าของหรือบอสใหญ่ว่า “ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย” จึงตัดสินใจเข้าร่วม และมีการชักชวนให้คนสนิทหรือคนในครอบครัวมาร่วมลงทุนด้วย แต่สินค้ากลับขายไม่ออกเนื่องจากสินค้าไม่ได้คุณภาพทำให้คนไม่กลับมาซื้อ เมื่อถามหาวิธีขายของกลับไม่ได้คำตอบ ทำให้ตนต้องเสียความสัมพันธ์กับคนสนิทและครอบครัว และธุรกิจดังกล่าวไม่ได้เน้นขายของแต่เน้นหาคนให้ร่วมลงทุน