วิมานหนามของจริง! เสี่ยเจ้าของสวนทุเรียน วิวาห์เจ้าสาวชาวกะเหรี่ยง ใส่ชุดผ้าพื้นเมืองที่ตัดเย็บกันเอง ด้วยสินสอดสุดอลังการ
ข่าวที่น่าสนใจ
-
ถึงกับปล่อยโฮ! หลานเปิดกระเป๋าคุณย่าหลังเสียชีวิต ที่เก็บความทรงจำไว้มากมาย
-
มีอึ้ง! หมอบอกเกี่ยวกัน นักข่าวสาวชาวไต้หวันป่วยมะเร็งเต้านม หลังสามีเสียชีวิตด้วยมะเร็งสมอง
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีการแต่งงานที่ร้านใจร่มๆคาเฟ่ ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อไปถึงบริเวณหน้าที่จัดงานพบเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวใสชุดไทยประยุกต์ ใบหน้ายิ้มแย้มยืนต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ภายในงานพิธีเป็นไปอย่างเรียบง่าย ต่อมาเจ้าบ่าวได้เอ่ยความในใจ กล่าวถึงความรักความรู้สึกที่มีต่อเจ้าสาว ด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตันและความปิติ ทำให้ญาติและครอบครัวตื้นตันใจน้ำตาน้องหน้าเช่นกัน ได้รับเสียงฮือฮาและเสียงปรบมือจากทั้งญาติและเพื่อนของทั้งสองฝ่ายดังกึกก้อง
โดยเป็นงานแต่งงานระหว่าง นายพัฒนา หรือ คุณติ่ง อายุ 39 ปี ชาวระยอง เจ้าของสวนทุเรียนกว่าร้อยไร่และสวนงามสุขโฮมสเตย์ในจังหวัดจันทบุรี ทำธุรกิจทุเรียนมีล้งทุเรียนและทุเรียนทอดส่งออกต่างประเทศ และเจ้าสาว นายบรรจบ หรือ คุณโจ้ อายุ 33 ปี ชาวเชียงใหม่กลุ่มชาติพันธุ์ อดีตนางแบบพรีเซนต์คลินิกเสริมความงามชื่อดัง ทั้งคู่ได้ทำพิธีรับไหว้จากญาติผู้ใหญ่ผูกข้อไม้ข้อมือจากญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ให้รับรู้รับทราบว่าทั้งสองได้ตกลงแต่งงาน ร่วมใช้ชีวิตคู่เป็นสามีภรรยากัน ซึ่งญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบและเห็นด้วยในการแต่งงานครั้งนี้ ซึ่งสินสอดในวันนี้คือแหวนเพชรน้ำหนัก 3.1 กะรัต รถหรูยี่ห้อ BMW ธุรกิจสวนทุเรียนจำนวน 100 กว่าไร่ ที่ทั้งสองต้องช่วยกันสานต่อ และดูแลธุรกิจครอบครัวต่อไป
นายพัฒนา หรือ คุณติ่ง เจ้าบ่าว เปิดเผยว่า ตนเองประกอบธุรกิจกับครอบครัว ทำสวนทุเรียนจำนวน 100 กว่าไร่ ทำโฮมสเตย์ ส่งออกทุเรียนและมังคุดไปต่างประเทศ และยังมีร้านกาแฟที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานพิธีในวันนี้ ส่วนเจ้าสาว นายบรรจบ หรือ คุณโจ้ ก็เป็นนางแบบอิสระและเข้ามาช่วยงานในสวนทุเรียน ทำหมดทุกหน้าที่จนพ่อแม่ญาติประทับใจและรักในตัวของน้องโจ้ เหมือนลูกอีกคนหนึ่ง เราทั้งสองได้รู้จักกันผ่านแอปพิเคชั่นหาคู่ และได้คบหาดูใจกันมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว ซึ่งตนเองประทับใจในความเสมอต้นเสมอปลายของเจ้าสาว ความขยัน อดทน และตัวน้องโจ้เองเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ด้วยจึงพยายามทำทุกอย่างที่จะพิสูจน์ตัวเองให้พ่อแม่ของตนยอมรับให้ได้ เมื่อความรักมาถึงจุดหนึ่งที่ต้องการความมั่นคง และคนที่จะพร้อมอยู่ข้างกายไปตลอดชีวิต จึงได้ทำเซอร์ไพรส์ในวันเกิดของน้องโจ้ ขอน้องโจ้แต่งงานในผับดังระยอง และมีเจ้าของสตูดิโอแห่งหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์เข้ามาติดต่อให้ตนและน้องโจ้มาเป็นแบบถ่ายพรีเวดดิ้งให้กับร้าน และยังจะมาถ่ายรูปให้ฟรีในวันแต่งงานอีกด้วย ตนจึงนำเรื่องการแต่งงานไปปรึกษาพ่อแม่และครอบครัว ซึ่งทางครอบครัวมีความยินดีที่จะให้เราทั้งสองร่วมใช้คู่ชีวิตด้วยกัน พร้อมทั้งไม่มีการคัดค้านใดๆ และด้วยแรงสนับสนุนจากครอบครัวจึงได้หาฤกษ์ที่จะกำหนดวันแต่งงาน ซึ่งฤกษ์ดีคือวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567
ตนเองและแฟนได้จัดงานแบบเรียบง่าย โดยในงานแต่งมีพิธีรับไหว้ขอขมาพ่อแม่และญาติ พิธีผูกข้อไม้ข้อมือโดยไม่ได้มีพิธีทางสงฆ์และแห่ขันหมาก และช่วงเย็นมีงานเลี้ยงฉลองงานแต่งโดยสวมชุดที่ทำจากผ้าพื้นเมืองกะเหรี่ยงที่ออกแบบตัดเย็บกันเองในงานเลี้ยงมีการแลกแหวนเพชร 3.1 กะรัตของคู่บ่าวสาว มีไฮไลท์จากบ่าวสาวและกลุ่มเพื่อนโดยทุกคนได้ร่วมเต้นพร้อมกันด้วยความสนุกสนาน ส่วนชุดในงานเลี้ยงเป็นชุดที่นำผ้าพื้นเมืองมาออกแบบตัดเย็บเป็นชุดราตรีสมัยใหม่แบบอลังการจัดเต็ม ซึ่งภายในงานจะตกแต่งด้วยสีรุ้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลายทางเพศของคู่บ่าวสาว และการแสดงออกถึงความต้องการสิทธิความเท่าเทียมกันในสังคมอีกด้วย สร้างเสียงหัวเราะความสุขและความตื้นตันจากเพื่อนๆ และครอบครัวเป็นอย่างมาก