เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กองปราบหอบสำนวน เกือบ 7,000 แผ่น คดี “เมจิกสกิน” ส่งอัยการสั่งคดี 5 ข้อหา นัดผู้ต้องหา 8 มิ.ย.

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึวความคืบหน้าคดีเมจิกสกิน หลังพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. นำตัว น.ส.ตรีชฎา ใจสบาย เจ้าของผลิตภัณฑ์ตรีชฎา และ น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ เจ้าของบริษัทฮานิวโคเรีย จำกัด ผู้ต้องหาร่วมคดีเมจิกสกิน พร้อมสำนวนการสอบสวน 2 ลัง พยานเอกสารหลักฐาน 6,932 แผ่น พร้อมความเห็นสมควรฟ้องผู้ต้องหารวม 6 ราย มาส่งมอบให้นายยงยุทธ สิทธิธัญกิจ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร , นายอภิชาติ ถาใจ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดีเศรษฐกิจฯ 2 สำนวนคดีนี้ มีเอกสารรวมทั้งสิ้น 14 แฟ้ม 6,932 แผ่น มีผู้เสียหายรวม 145 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 113 ล้านบาท มีผู้ต้องหาทั้งหมดคือ

1. บริษัท เมจิกสกิน จำกัด โดยนายกร พวงสน ผู้ต้องหาที่ 1
2. นายกร พวงสน ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 2
3. นางวรรณภา พวงสน (ภรรยาของนายกร) ผู้ต้องหาที่ 3
4. น.ส.ตรีชฎา หรือส้ม ผู้ต้องหาที่ 4
5. บริษัท ฮานิวโคเรีย จำกัด ผู้ต้องหาที่ 5
6. น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 6

ความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 , พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 โดยผู้ต้องหาที่ 1-4 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลที่บิดเบือน หรือข้อมูลที่เป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ผลิตเพื่อจำหน่ายเครื่องสำอางปลอม รับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-6 แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันรับจ้างผลิตเครื่องสำอางโดยไม่แจ้งรายละเอียดเครื่องสำอางตามที่จดแจ้ง , เป็นผู้รับจ้างผลิตฉลากที่มีข้อมูลซึ่งอาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดในสาระสำคัญที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง และรับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม

นายประยุทธ รองโฆษกอัยการ กล่าวว่า อัยการกำหนดนัดสั่งคดีนี้ในวันที่ 8 มิ.ย. โดยผู้ต้องหาต้องไปรายงานตัวเพื่อทราบคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งในส่วนของการพิจารณาสำนวนมาอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ก็จะตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาดูแล

ขณะที่นายยงยุทธ สิทธิธัญกิจ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ยืนยันว่า ไม่หนักใจในการทำคดีจะดูตามพยานหลักฐาน ซึ่งคดีที่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอางและอาหารมีผลกระทบต่อประชาชน เราก็จะใช้ความระมัดระวังในการตรวจสำนวนเต็มที่

สำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ตาม ม. 27 (2) และม. 29 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท , ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมาย ม.343, 341 จำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2560 ม.14 (1) จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ