เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผล จนรู้ว่าเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์มีการกระจายสัญญาณมาจากย่านรามคำแหง จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นห้องพัก อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง พบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด หรือ SIM box จำนวน 15 เครื่อง มีการลักลอบใช้เสาสัญญาณในไทย พร้อมจับกุมผู้ร่วมกระบวนคนไทย 4 รายนั้น

ล่าสุดวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1  สั่งการให้ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 นำกำลังเข้าจับกุมตัว Mr.Chun Shen Liao สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง , คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และ เครื่องบันทึกวงจรปิด 2 เครื่อง ที่คอนโดหรูย่านห้วยขวาง หลังสืบทราบว่า Mr.Chun Shen Liao คือผู้จ้างวานคนไทยทั้ง 4 คน ให้เปิดห้องพักเพื่อนำ SIM box เข้าไปติดตั้งสัญญาณ โดยจะได้เงินค่าจ้างการเปิดห้องครั้งละ 100,000 บาท เมื่อหาคนมาเปิดห้องได้แล้ว จะส่งพัสดุเป็น SIM box มายังหอพักจากนั้นจะมีผู้ต้องหาคนไทย เข้าไปทำการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อให้ส่งสัญญาณจากต่างประเทศได้

สอบปากคำ Mr.Chun Shen Lia ให้การว่า รู้จักกับนายองอาจ ผู้ต้องหา 1 ใน 4 ที่เรือนจำเนื่องจากตัวเองเคยต้องโทษในประเทศไทย เมื่อพ้นโทษออกมาก็ติดต่อกันมาตลอด กระทั่งเสนองานให้ทำในการจัดหาห้องเช่าเปิดเพื่อนำ SIM box ไปใส่ไว้ หลังจากนั้น “อาตี๋” เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศจะเป็นคนส่ง SIM box จากประเทศจีน และกัมพูชา มาทางพัสดุ นายองอาจจะเป็นคนเข้าไปติดตั้ง โดยมีการวิดีโอคอลสอนวิธีการติดตั้งทั้งหมด เมื่อทำงานเสร็จอาตี๋ จะโอนเงินมาให้เป็นสกุลเงินดิจิทัล ก่อนจะนำมาแจกจ่ายให้กับลูกจ้างคนไทยทั้ง 4 คน

สำหรับผู้ต้องหาชาวจีนคนนี้ เป็นตัวการใหญ่ของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นผู้คุมพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยสถานที่ทำงานจะแบ่งเป็นชั้น ๆ ในแต่ละชั้นจะถูกแบ่งออกเป็นแต่ละประเทศ เช่น ไต้หวัน จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และไทย โดยจะทำหน้าที่ดูแลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทย และไต้หวัน จะได้ค่าจ้างประมาณ 25,000 บาทต่อเดือน หากหลอกได้สำเร็จจะมีโบนัสพร้อมเปอร์เซ็นต์ที่หลอกได้อีก 0.5 เปอร์เซ็นต์

ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม กับตำรวจไต้หวัน พบว่า Mr.Chun Shen Liao สัญชาติ จีน มีประวัติคดีฉ้อโกง และถูกออกหมายจับคดีฉ้อโกงที่ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 เป็นผู้ต้องหาที่ทางการไต้หวันต้องตัว และเคยถูกดำเนินคดี ร่วมกันฉ้อโกง ศาลพิพากษา จำคุก เรือนจำคลองเปรม 10 ปี พ้นโทษปี 2563