วันที่ 3 ก.พ. 68 ที่ศาลาว่าการกทม. นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก เป็นเทศกาลที่คนแสดงความรักต่อกัน
โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน จะให้ความสำคัญกับความรักในช่วงวันวาเลนไทน์นี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมองว่า การมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก ถือเป็นการแสดงความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันได้
ดังนั้น สำนักอนามัย (สนอ.) จึงจัดกิจกรรม BKK Pride Valentine Day 2025 : Ready For เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องเรื่อง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ รวมทั้งการใช้ยาป้องกันก่อนและหลังการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (PIEP/PEP) ขณะเดียวกันประชาสัมพันธ์การให้บริการคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย กรุงเทพมหานคร (BKK Pride Clinic) ตลอดจนสนับสนุนการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม
ด้าน นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบว่าเป็นปัญหาสำคัญของกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันพบว่า มีผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกรุงเทพฯ ถึง 10,879 คน เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี’59 ที่พบอัตราป่วย 47.35 ต่อแสนประชากร เป็น 96.87 ต่อแสนประชากร ในปี’67 สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับระดับประเทศ 57.12 ต่อแสนประชากร
โดยโรคที่พบมากที่สุดคือ ซิฟิลิส 3,677 คน หรืออัตราป่วย 50.999 ต่อแสนประชากร รองลงมาคือ หนองใน 24.97 ต่อแสนประชากร หูดหงอนไก่ 18.80 ต่อแสนประชากร หนองในเทียม 18.11 ต่อแสนประชากร และเริม 15.22 ต่อแสนประชากร ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน อายุ 15-24 ปี
เมื่อเปรียบเทียบผู้ป่วยโรคซิฟิลิส ตั้งแต่ปี61-67 ของกทม.พบอัตราป่วย174.76 ต่อแสนประชากร ส่วนประเทศ พบอัตราป่วย 124.53 ต่อแสนประชากร ส่วนโรคหนองใน ของกทม.พบอัตราป่วย 136.01 ต่อแสนประชากร ส่วนประเทศ พบอัตราป่วย 115.63 ต่อแสนประชากร
ซึ่งกรุงเทพมหานคร เป็นจังหวัดที่มีผู้ป่วยโรคดังกล่าวมากที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นเยาวชนและกลุ่มประชากรที่มีความหลากหลายทางเพศ สนอ.จึงต้องเร่งรณรงค์ให้ความรู้เพื่อป้องกันโรคดังกล่าวโดยใช้ถุงยางอนามัย
ส่วนการติดเชื้อเอชไอวีนั้น จากการคาดประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีชีวิตอยู่ในปี’66 มี 89,768 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,095 คน และเสียชีวิตภายในปี’67 1,744 คน จากผลการเฝ้าระวังการติดเชื้อเอชไอวี และพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี(BBS) ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย พบว่า กลุ่มสาวประเภทสอง (TGW) ร้อยละ 4 และกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชายติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 1.68
โดยสัดส่วนของผู้ที่ทราบสถานะการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นจาก 74% ในปี’58 เป็นมากกว่า 99% ในปี 67 ความครอบคลุมของการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นจาก 52% เป็น 78% และผู้ติดเชื้อเอชไอวีในกรุงเทพฯ เกือบทุกคนสามารถยับยั้งปริมาณไวรัสเอชไอวีได้ ร้อยละ 85 ของผู้ติดเชื้อฯ เนื่องจากได้รับยาต้านไวรัสภายใน 7 วัน
อย่างไรก็ตาม สนอ.ร่วมกับภาคีเครือข่าย จึงกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เนื่องในวันแห่งความรัก BKK Pride Valentine 2025 : Ready for All เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ความรู้ ที่ถูกต้องเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ ประชาสัมพันธ์การใช้ถุงยางอนามัย และยาป้องกันก่อน และหลังการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (PrEP/PEP) สนับสนุนการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม