จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้บ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 หลังเกิดเหตุ น.ส.นิตยา ตรีสุคนธ์ และนายฤทธิกร แสงสมพร สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความเงินหาย 10 ล้านบาท ขณะเกิดเหตุไฟไหม้ แต่ปรากฏว่าตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า เป็นการวางเพลิงและแจ้งความเท็จ ได้ออกหมายจับทั้ง 2 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 6 มี.ค. 68 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้ส่งชุดสืบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ ไปนำรถยนต์ปาเจโร่ที่สองผู้ต้องหาได้ขับไปจอดไว้ที่จังหวัดตราด กลับมาตรวจสอบที่โรงพัก ซึ่งคาดว่าจะนำรถขึ้นรถสไลด์มาถึงที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ในวันพรุ่งนี้ และการที่ชุดสืบสวนเดินทางไปถึงที่จังหวัดตราด ไม่ได้เพียงแค่เข้าไปนำรถยนต์กลับมาเท่านั้น แต่ได้มีการประสานตำรวจพื้นที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งในตอนนี้คดีถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก และคาดว่าน่าจะได้ตัวทั้งสองคนมาดำเนินคดี
ส่วนประเด็นที่มีคนจับจ้องว่า การที่ตำรวจออกหมายจับช้า เป็นเพราะดึงเวลาให้ผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศก่อนหรือไม่ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ชี้แจงว่า ตั้งแต่เกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งสองรายแสดงตัวเป็นผู้เสียหาย มาแจ้งความว่าไฟไหม้บ้านจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร และที่สำคัญเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่วางไว้บนที่นอนได้หายไป ในตอนนั้นตำรวจเองก็เกิดความสงสัย แต่ไม่มีอำนาจในการควบคุมตัว ทำได้เพียงแค่สอบปากคำ พิสูจน์ทราบในการหาหลักฐานในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ และรอผลตรวจออก ก่อนจะปล่อยตัวสองผู้ต้องหา ที่ในขณะนั้นอยู่ในฐานะผู้เสียหายกลับไปที่บ้าน
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ กล่าวว่า ซึ่งหลังจากนั้นก็ทราบว่าครอบครัวเจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้ได้ย้ายออกไปจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยในขณะนั้นทางตำรวจก็รอเพียงแค่ผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐานว่า เหตุไฟไหม้เป็นอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจร หรือเป็นการจงใจทำให้เกิดเพลิงไหม้ จนผลมาออกในวันที่ 4 มีนาคม หลังผลออก ก็ได้ให้พนักงานสอบสวนไปขอศาลในการอนุมัติออกหมายจับทันที จึงทำให้ตั้งแต่หลังจากที่เกิดเหตุที่ตำรวจไม่ได้ควบคุมตัวครอบครัวของบ้านที่ถูกไฟไหม้ เพราะตอนนั้นเขายังไม่ใช่ผู้ต้องหา ไม่เหมือนคดีอาชญากรรมอื่นๆ เช่น ฆ่ากันตาย ที่ตำรวจรู้ตัวคนก่อเหตุแล้วสามารถควบคุมตัวมาดำเนินคดีได้ทันที แต่คดีนี้ผู้ต้องหาเริ่มต้นจากการเป็นผู้เสียหาย ซึ่งทางตำรวจก็เริ่มทำงานมาตั้งแต่วันแรก จนสามารถหาหลักฐานมาออกหมายจับได้