วันที่ 6 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ร.ต.อ.นิวัตร แจงกระโทก รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยนาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุหนุ่มมาง้อขอแฟนสาวคืนดี ฝ่ายหญิงไม่ยอม ทำให้มีการโต้เถียงทะเลาะวิวาทกัน บริเวณบ้านพักในพื้นที่ บ้านค่ายเสนีย์ ต.หนองขอนกว้าง มีเจ้าหน้าที่อาสาตำรวจชุมชน ต.หนองขอนกว่าง 1 นายออกไประงับเหตุ และถูกหนุ่มที่มาขอแฟนสาวคืนดีขับรถปิกอัพพุ่งชน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลา 19.30 น. วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา
ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพ ยี่ห้อเอ็มจี สีขาว ชนกับรถยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ กระเด็นไปอัดกับเสาไฟฟ้า สภาพพังยับเยินทั้งสองคัน ส่วนตัวผู้บาดเจ็บสาหัสนอนอยู่กลางถนน ทราบชื่อภายหลัง นายมิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี อาสาตำรวจชุมชน ต.หนองขอนกว้าง เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีเป็นการเร่งด่วน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านเข้าของรถปิกอัพที่ขับพุ่งชน ทราบชื่อ นายธีรวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบ้านประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง
ต่อมาเวลา 12.30 น. วันที่ 6 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบประตูรั้วบ้านพังเสียหาย มีรอยรถบริเวณถนนหน้าบ้าน พบชิ้นส่วนอะไหล่รถทั้งสองคันตกอยู่บริเวณเสาไฟฟ้า ทางเลี้ยวเข้าถนนหน้าบ้าน
นายชนาธิป (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุไม่เห็นเพราะอยู่ในบ้าน แต่ก่อนเกิดเหตุ เห็นรถปิกอัพสีขาวขับผ่านถนนหน้าบ้านไปมา 2-3 รอบ จากนั้นได้ยินเสียงรถชนกัน แต่ไม่รู้ว่ามีผู้บาดเจ็บ ส่วนเรื่องทะเลาะกันตนไม่ทราบเลย
ด้าน พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากหัวหน้า สภ.ย่อยโนนสูง เป็นการทะเลาะวิวาท มีปากเสียงกันระหว่างสามีภรรยาพึ่งเลิกลากัน แต่ก็ยังตามมาพูดคุยและราวีอยู่ และมีการไประงับเหตุทะเลาะวิวาทหลายครั้ง โดยนายมิตร อาสาตำรวจชุมชนตำบลหนองขอนกว้าง ซึ่งมีความขยันหมั่นเพียรที่จะช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจ
“ผู้ตายเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ตามกฎหมายของ สภ. เมืองอุดรธานี โดยผมซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วย ผมก็รู้สึกเสียใจ กับการสูญเสียของเจ้าหน้าที่เรา สาเหตุตอนนี้เรายังพิสูจน์จากการดูกล้องวงจรปิดจากในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อมว่าเป็นการตั้งใจขับที่จะพุ่งชน ซึ่งอาจจะเข้าข่ายฆาตกรรม หรือว่าเป็นอุบัติเหตุจากการมึนเมา จะต้องสอบพยานในที่เกิดเหตุ” พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ กล่าว
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ เปิดเผยต่อว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้จังหวะชุลมุน ที่กำลังช่วยผู้บาดเจ็บ วิ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองกำลังติดตามจับกุม ตอนนี้ได้ให้ชุดสืบสวนลงติดตามตัวผู้ก่อเหตุ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ลงติดตามตัว และ ในการปฎิบัติหน้าที่ของ อส.ตร. ต้องยึดหลักในการปฎิบัติหน้าที่เหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก. ป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี มีการอบรบฝึกทบทวนยุทธวิธีตลอด
ต่อมาเวลา 14.00 น. ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง นำกำลังเข้าจับกุมนายธีรวุฒิ ผู้ก่อเหตุ ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. โดยนายธีรวุฒิ ให้การว่า ตนเปิดเต็นท์รถมือสองกับอดีตภรรยาซึ่งเป็นพยาบาล คบหากันประมาณ 5 ปี ต่อมาตนได้แยกทางกัน เพราะภรรยาจับได้ว่าตนนอกใจและมีปัญหาเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกัน โดยแยกทางกันได้ 7 เดือน แต่ก็คุยกันตามปกติ แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตนก็จะมาบ้านหลังนี้ประจำเพราะสร้างมาด้วยกัน
ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ดื่มเหล้า 3-4 แก้ว แล้วตามมาง้ออดีตภรรยา แต่ภรรยาไม่คืนดี และมีปากเสียงทะเลาะกัน ภรรยาจึงโทรแจ้งตำรวจ พอเจ้าหน้าที่มาถึงได้จอดรถและเปิดไฟสูงใส่ ตนก็ได้ขับรถปิกอัพออกมาด้วยความรวดเร็ว ตนไม่เห็นเจ้าหน้าที่ แต่พอลงมาก็พบว่าชนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ตนเลยเดินกลับมาห้องพัก ตื่นเช้าคิดว่าจะแจ้งประกันให้ แต่ตำรวจเข้ามาจับก่อน โดยตนไม่รู้ว่าผู้ที่ตนขับรถชนเสียชีวิตแล้ว
“อยากขอโทษผู้ตาย และญาติพี่น้องผู้ตาย ขอให้ไปสู่สุขติ จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ผมไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ว่าชน ซึ่งมันเป็นเหตุที่ผมทำเองและยอมรับผิด ขออโหสิกรรมให้ผมด้วย” นายธีรวุฒิ กล่าว