สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ว่า ตามประกาศของรัฐบาลกลาง ผู้อพยพที่ไม่มีสถานะจะได้รับคำเตือนให้ออกจากสหรัฐ ก่อนที่ใบอนุญาต และการคุ้มครองจากการเนรเทศจะถูกยกเลิก ในวันที่ 24 เม.ย. นี้
ผู้อพยพ 530,000 คนที่เข้ามาในสหรัฐ ภายใต้โครงการ “CHNV” หรือ Cubans, Haitians, Nicaraguans, and Venezuelans (ซีเอชเอ็นวี) ซึ่งเป็นโครงการที่ก่อนตั้งขึ้นในยุคประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อปี 2565 เพื่ออนุญาตให้มีการย้ายถิ่นฐานอย่างถูกกฎหมาย แต่ในภายหลังได้ถูกระงับ เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง
โครงการดังกล่าวอนุญาตให้ผู้อพยพและสมาชิกในครอบครัวใกล้ชิด สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้ หากพวกเขามีผู้สนับสนุนชาวอเมริกัน และอยู่ในสถานะผู้อพยพชั่วคราวเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งตอนนั้นฝ่ายบริหารของไบเดนระบุว่า ซีเอชเอ็นวีจะช่วยหยุดยั้งการข้ามพรมแดนอย่างผิดกฏหมาย บริเวณชายแดนตอนใต้ของสหรัฐ
ขณะที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิออกมาโต้แย้งว่า “ฝ่ายบริหารชุดก่อนหน้าโกหกอเมริกา” นโยบายของไบเดน เป็นการมอบโอกาสให้ผู้อพยพเข้ามาแย่งชิงงานในสหรัฐ และบั่นทอนแรงงานอเมริกัน บังคับให้ข้าราชการประจำส่งเสริมโครงการ แม้พบการฉ้อโกง และรัฐบาลไบเดนกล่าวโทษพรรครีพับลิกัน ว่ามีส่วนทำให้เกิดความโกลาหล รวมถึงอาชญากรรมในประเทศ
อย่างไรก็ดี ผู้อพยพภายใต้โครงการซีเอชเอ็นวีบางราย อาจได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อ “ในบางกรณี”