วันที่ 10 เม.ย. 2568 หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่าร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง บริเวณ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง มีเจ้าของเป็นชาวจีนได้ว่าจ้างพนักงานต่างด้าวทั้งชาวจีนและเมียนมาไม่ถูกต้องตามกฎหมายจำนวนมาก เพื่อบริการกลุ่มลูกค้าชาวจีนด้วยกัน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วิรชา สนั่นศิลป์ รอง ผกก.สส. บก.ตม.3, พ.ต.ท.สุริโย ไชยยอด และ ว่าที่ พ.ต.ท.จตุรโชค เพชรคง สว.กก.สส.บก.ตม.3 นำกำลังเข้าตรวจสอบร้านอาหารจีนดังกล่าว เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อไปถึงพบเป็นอาคารพาณิชย์ริมถนนใหญ่ ป้ายหน้าร้าน เมนูอาหาร ตัวอักษร อุปกรณ์ของใช้ภายในร้านต่าง ๆ เป็นภาษาจีนทั้งหมด โดยมีพนักงานชื่อ MR.GUOQING ชาวจีน อายุ 30 ปี และชาวเมียนมากำลังให้บริการกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่นั่งรับประทานอาหารภายในร้าน ทั้งรับรายการอาหาร คอยดูแลลูกค้า และเก็บเงินจากลูกค้าชาวจีน ภายในห้องครัวพบพ่อครัวเป็นชาวจีน ทราบชื่อ MR.WANG อายุ 48 ปี
จากการตรวจสอบพบชายชาวจีนทั้ง 2 ราย ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย โดยประเภทวีซ่า ผ.60-ม.17 สำหรับการท่องเที่ยว แต่ไม่สามารถแสดงใบอนุญาตทำงานได้ และกลุ่มพนักงานชาวเมียนมามีเอกสารใบอนุญาตทำงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
สอบถามชายชาวจีนทั้ง 2 ราย ทราบว่า ร้านดังกล่าวมีเจ้าของร้านเป็นหญิงชาวจีน ชื่อ Ms. JING ได้ว่าจ้างตน เพื่อนชาวจีนและชาวเมียนมาเป็นพนักงานในร้าน ขณะนี้เจ้าของร้านได้เดินทางกลับไปยังประเทศจีนแล้ว
นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้าชาวจีนสามารถชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด (QR CODE) ระบบบัญชีธนาคารสัญชาติจีนได้เลย โดยปรากฎทั้งระบบ WECHAT PAY, ALIPAY และพบ QR CODE ชำระเงินระบบพร้อมเพย์บัญชีธนาคารไทย ชื่อบัญชีชาวจีนว่า JING
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวพนักงานชาวจีนและชาวเมียนมา จำนวน 4 คน ความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมพัฒนา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ ผบก.ตม.3 เปิดเผยว่า ความผิดในข้อหาดังกล่าวแม้มีโทษเพียงการปรับในชั้นศาล แต่ผู้ถูกจับจะต้องถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ถูกบันทึกเป็นบุคคลต้องห้าม หรือ blacklist ห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร และถูกส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป
ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
