เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 18 เมษายน 2568 ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงตอบสื่อมวลชนกรณี นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “พีช” อายุ 28 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ลำลูกกา ทีมธัญญก้าวหน้า และบุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งตกเป็นข่าวอุบัติเหตุรถยนต์ โดยมีพฤติกรรมโอ้อวดและแอบอ้างรู้จักตนเอง พร้อมเรียกชื่อเล่นว่า “อาต่าย” เพื่อหวังผลทางคดี

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวพร้อมหัวเราะเบาๆ ว่า
“ใครๆ ก็เรียกผมว่า ‘อาต่าย’ ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นญาติผม”
พร้อมเผยว่าได้ชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้เน้นย้ำไปยังตำรวจทุกระดับชั้นให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

“ผมรู้จักพ่อของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นญาติผม ผมสอนลูกตัวเองเสมอว่าอย่าทำตัวเป็นขยะของสังคม และขอย้ำว่าผมมีลูกคนเดียว ไม่มีญาติแบบนี้แน่นอน ผมแยกแยะได้ว่าการรู้จักกับใคร ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าข้างหรือช่วยเหลือใครในทางคดี” ผบ.ตร. กล่าวอย่างจริงจัง

เตือนสติ ขาดวุฒิภาวะ – ขาดจิตสำนึกบนท้องถนน

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า การกระทำของนายสมิทธิพัฒน์เป็นการ ขาดวุฒิภาวะ ขาดจิตสำนึก ขาดความรับผิดชอบบนท้องถนน หากในรถกระบะมีเด็กหรือคนที่บาดเจ็บสาหัส ผลลัพธ์อาจเลวร้ายกว่านี้มาก พร้อมกำชับตำรวจทางหลวงพิเศษและตำรวจภูธรภาค 1 ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีการช่วยเหลือใดๆ

“การอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโต เป็นพฤติกรรมโอ้อวดเพื่อให้พ้นผิด และเป็นสิ่งที่ตำรวจยุคใหม่ไม่ให้ความสำคัญอีกต่อไป ยิ่งพูดยิ่งพลาด ยิ่งอวดก็ยิ่งเสียหาย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

ยันคดีต้องดำเนินตรงไปตรงมา – ไม่มีวิ่งเต้นเด็ดขาด

สำหรับกระบวนการทางคดี ผบ.ตร. ระบุว่า ขณะนี้เริ่มดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการจราจรแล้ว ส่วนคดีอาญายังอยู่ระหว่างการรอผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ โดยได้กำชับให้ตำรวจดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากประชาชนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าคดีมีความล่าช้า

“ถ้าผมพบว่ามีตำรวจคนใดช่วยเหลือ จะดำเนินการกับคนนั้นทันที ไม่เว้นแม้แต่คนในหน่วยงานของผมเอง” ผบ.ตร. ยืนยัน

พร้อมระบุว่าการพิจารณาโทษจะต้องดูจาก พฤติกรรม ข้อเท็จจริง และอาการบาดเจ็บของผู้เสียหาย เพื่อประเมินว่ามีองค์ประกอบของความผิดฐานพยายามฆ่าหรือไม่

ท้ายที่สุด ผบ.ตร. ขอวิงวอนประชาชน อย่านำตนไปเชื่อมโยงกับคดีนี้ ยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับผู้ก่อเหตุ และขอให้สังคมใช้วิจารณญาณในการตัดสินคนจากการกระทำ ไม่ใช่จากการอ้างชื่อหรือความสัมพันธ์กับบุคคลในอำนาจ

“อย่าทำตัวเป็นขยะสังคม เพราะวันหนึ่งขยะก็ต้องถูกกำจัด” — พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

ข่าวที่น่าสนใจ

ปลัดเทศบาลรุดสอบพบไม่ได้ขออนุญาต ถมดินสูงกว่าหลังคา

“แพท ณปภา” เปิดใจถึงประเด็นดังหลังชื่อของโตโน่ กลับมามีกระแสข่าวทอล์กออฟเดอะทาวน์เรื่องรักสามสี่เส้า ลั่น จากเคยจิ้น ไม่ได้โกรธ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร..?