เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่พัดกระหน่ำจังหวัดสุพรรณบุรีอย่างหนักเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอสองพี่น้อง ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักที่สุด
ข่าวที่น่าสนใจ
สาวสองโชว์หวิวกลางสงกรานต์โคราช หนุ่มรุมล้อม ชาวเน็ตจวกยับ เสื่อมวัฒนธรรม!
นาทีชีวิต! เครื่องเจียเล็บนรก ลัดวงจร บึ้มสนั่นร้านเสริมสวยลูกค้าสติดีสุดยอด คว้าผ้ามาดับเพลิง
นายรัชกฤต พยัคฆ์ นายอำเภอสองพี่น้อง พร้อมด้วย นายหมวดโท นเรศ หนูทอง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พบว่าบ้านเรือนประชาชนและสถานประกอบการได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบรวมกว่า 410 หลังคาเรือน กระจายอยู่ใน 6 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางตาเถร ประมาณ 50 หลังคาเรือน, ตำบลบ้านช้าง ประมาณ 60 หลังคาเรือน, ตำบลต้นตาล ประมาณ 80 หลังคาเรือน, ตำบลบางตะเคียน ประมาณ 140 หลังคาเรือน, ตำบลบ้านกุ่ม ประมาณ 70 หลังคาเรือน และตำบลบางพลับ ประมาณ 10 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ความเสียหายเกิดจากแรงลมพัดหลังคาบ้านปลิวหายไปทั้งแถบ
นอกจากนี้ ถนนหมายเลข 3351 สายบางแม่หม้าย-บางสาม ยังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเสาไฟฟ้าที่โค่นล้มหักไปถึง 80 ต้น ส่งผลให้การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก และไฟฟ้าในหลายพื้นที่ดับเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งทางการไฟฟ้าคาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 วันในการแก้ไขให้กลับสู่สภาวะปกติ
ความเสียหายที่สร้างความสะเทือนใจอีกจุดคือ โรงเรือนฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ในพื้นที่ตำบลบ้านกุ่ม ที่ถูกพายุพัดพังครืนลงมาทั้งหลัง ส่งผลให้ไก่ไข่ที่อยู่ในโรงเรือนเสียชีวิตกว่า 6,000 ตัว สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับรายงานความเสียหายจากพื้นที่อำเภออื่นๆ เพิ่มเติมอีก 6 อำเภอ ทำให้ยอดรวมความเสียหายเบื้องต้นใน 7 อำเภอของจังหวัดสุพรรณบุรี มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบจากวาตภัยแล้วถึง 793 ครอบครัว ประกอบด้วย อำเภอศรีประจันต์ 234 หลังคาเรือน, อำเภอบางปลาม้า 80 หลังคาเรือน, อำเภอสองพี่น้อง 410 หลังคาเรือน, อำเภออู่ทอง 11 หลังคาเรือน, อำเภอหนองหญ้าไซ 50 หลังคาเรือน, อำเภอด่านช้าง 7 หลังคาเรือน และอำเภอเดิมบางนางบวช 1 หลังคาเรือน
ขณะนี้ หน่วยงานภาครัฐในระดับจังหวัดและท้องถิ่นกำลังเร่งสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ทั้งในเรื่องของที่พักอาศัยชั่วคราว การซ่อมแซมบ้านเรือน และการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ ต่อไป